โครงการถวายพระพรออนไลน์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยได้ลงนามถวายพระพรออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.welovekingonline.com

ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว

ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติงานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555

โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำสำมะโนธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการ และสำมะโน อุตสาหกรรมทุก 10 ปี ตามข้อเสนอแนะขององค์การสหประชาชาติ เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญทางด้านธุรกิจทางการค้า ธุรกิจทางการบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง

21 กรกฎาคม 2553

แนะนำ....คุณมาดี...


คุณมาดี ชุดสีชมพู สัญญลักษณ์ของการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2553  เป็นตัวแทนของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่จะพบเห็นอยู่บ่อยๆ  ในทุก พื้นที่ ทุกจังหวัดในช่วงวันที่ 1-30 กันยายน 2553 นี้
                            
ครบรอบ 100 ปีสำมะโนประชากรประเทศไทยในปี  2553 นี้   จึงถือเป็นการทำสำมะโนครั้งประวัติศาสตร์  และเป็นการทำสำมะโนยุคใหม่จริงๆ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทั้ง  วิธีการ รูปแบบ อุปกรณ์เครื่องมือ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่งานสนามที่มาในรูปโฉมใหม่ "คุณ มาดี ชุดสีชมพู" เป็นรูปแบบการเข้าถึงประชาชนแบบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมใน ปัจจุบัน  ในอดีตประชาชนมักจะไม่รู้จักว่า  สำมะโนคืออะไร  ทำให้การทำสำมะ โนไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร  จึงเป็นที่มาของ คุณ มาดี ผู้ทำหน้าที่เสมือนตัวแทนสำนักงานสถิติแห่งชาติ  ที่ มาพร้อมกับสิ่งดีๆ ด้วยบุกคลิกที่เป็นมิตร สุภาพ และเป็นกันเอง
                            
ภาพลักษณ์ของ มาดี จะเชิญชวนให้ทุกท่านเปิดใจให้ข้อมูลต่างๆ ในการทำสำมะโนประชากรได้อย่างสบายใจ  รับประกันเรื่องข้อมูลรั่วไหล  ด้วย ช่องทางที่ท่านสามารถเลือกได้  4 ช่องทางคือ
                            
1)ให้มาดีสัมภาษณ์ที่บ้าน
2)กรอกแบบสอบถามเองแล้วส่งกลับคืน
3)กรอกข้อมูลทาง Internet ที่ www.nso.go.th
4)ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หรือโทรไปที่หมายเลขโทรศัพท์  1111 กด 6
ถึงแม้การทำสำมะโนประชากรจะเริ่มทำกันมาแล้ว 100 ปี และวัตถุประสงค์ของการจัดทำแต่ละครั้งก็ไม่แตกต่างกันคือ  เพื่อรวบรวม ข้อมูลประชากรทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษาที่อยู่จริงในประเทศไทย เพื่อการฉายภาพให้เห็นว่า  ณ วันที่ 1 กันยายน 2553 ประเทศไทยมีประชากรอาศัยอยู่เท่าใด กระจายอยู่ที่ไหนบ้าง  เป็นชายเป็นหญิง เป็นเด็ก คนทำงาน คนแก่ คนพิการจำนวนเท่าใด มีการศึกษาระดับใดบ้าง  อาชีพอะไร มีความเป็นอยู่อย่างไร
เพื่อเน้นย้ำเรื่องความมั่นใจและสบายใจของพี่น้องที่ให้ข้อมูลทุก คน  เอกลักษณ์ของ มาดี ที่สังเกตเห็นได้ง่ายๆ คือการใส่เสื้อและหมวกแก็ปสีชมพู  อันเป็นสีแห่งมงคลของปวงชนชาวไทย พร้อมโลโก้ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ มาดี  ที่เห็นในสื่อประชาสัมพันธ์อาจเป็นผู้ชายแต่ในการปฏิบัติงานจริงนั้น มาดี  จะมีทั้งหญิงและชาย แต่ทุกคนยังคงยึดต้นแบบของบุคลิกที่มีความเป็นมิตร สุภาพ  ยิ้มแย้มแจ่มใสกับพี่น้องผู้ให้ข้อมูลทุกคน
ที่สำคัญทุกครั้งที่ มาดี ออกไปปฏิบัติงาน  จะต้องมีบัตรประจำตัวพนักงาน ซึ่งมีรูปและเลขที่บัตรอย่างชัดเจน ถ้าเห็นแบบนี้แล้ว  มั่นใจได้เลยว่าเป็น มาดี ตัวจริงเสียงจริงอย่างแน่นอน  ทุกท่านจะพบกับ "คุณมาดี ชุดสีชมพู" ตัวแทนจากสำนักงานสถิติแห่งชาติลงพื้นที่จริงกว่า 70,000 คน พร้อมกันทุกจังหวัด  ทั่วประเทศ ในวันที่ 1-30 กันยายนนี้    "สวัสดีครับ  ผม มาดี มาทำสำมะโนประชากรครับ"

9 กรกฎาคม 2553

'ไอซีที' ทำเว็บรวมบริการออนไลน์รัฐ

ไอซีที คุยรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ คืบหน้า คาดหลัง ก.พ. 2554 เปิดเว็บท่ารวมบริการออนไลน์หน่วยงานรัฐ

นายชัยโรจน์ จิรพัฒนเกียรติ ผู้ อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (อี-เซอร์วิส) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมบริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาให้บริการบนเว็บไซต์ www.egov.go.th ซึ่งเป็นเว็บท่า หรือเว็บไซต์กลาง ที่กระทรวงไอซีทีจัดทำขึ้น เบื้องต้นจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการประมาณเดือน ก.พ. 2554

นาย ชัยโรจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริการอี-เซอร์วิสที่ไอซีทีรวบรวมไว้ให้บริการมี 24 บริการ ซึ่งตามแผนการดำเนินงานสิ้นปีนี้จะทำแบบสอบถามเพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานภาครัฐ ต่าง ๆ แล้วรวบรวมข้อมูลบริการออนไลน์มาไว้ให้บริการผ่านเว็บท่า ส่วนบริการที่ต้องติดต่อโดยตรงกับหน่วยงานราชการ จะนำมาเสนอบนเว็บไซต์ด้วย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย

“ความคาดหวังในการให้บริการ อี-เซอร์วิสของหน่วยงานภาครัฐ คือ การทำให้ประชาชนสะดวกในการติดต่อราชการ ซึ่งมากกว่าเวลาทำการปกติ และสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายชัยโรจน์ กล่าว.

ที่มา: www.dailynews.co.th

8 กรกฎาคม 2553

มหกรรมแห่เทียนพรรษา 83 ไอรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน

จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงาน” มหกรรมแห่เทียนพรรษา 83 ไอรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน “ และตักบาตรบนหลังช้างอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปีในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา (8/7/2010)
จังหวัดสุรินทร์จัดงาน” มหกรรม แห่เทียนพรรษา 83 ไอรา เทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน “ อย่าง ยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปี เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ โดยร่วมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และส่วนราชการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24 - 26 ก.ค. 2553 อย่าง ยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปี ทั้งนี้เพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาตลบ 83 พรรษา และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ โดยจัดให้มีกิจกรรมต่างๆมากมายประกอบด้วย วันที่ 24 ก.ค. 2553 เวลา 15.00 น. ฟังการบรรยายธรรม จากทีมงาน “ ธรรมมะ Delivery “ โดยพระครูวินัยธรชาติ ( พระมหาสมปอง ) ซึ่งจะมีนักเรียนร่วมปิบัติธรรม จำนวน 1,500 คน เวลา 18.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ดยพระสงฆ์สมณศักดิ์ 84 รูป และอธิฐานจิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกิจกรรมการปฏิบัติธรรมภาวนา วันที่ 25 ก.ค. 2553 เวลา 08.30 น. มีการจัดขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดกลางสุรินทร์มาประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีหน้าศาลากลางจังหวัด 09.00 น. เป็นต้นไปจัดให้มีกิจกรรม ประกวดสวดทำนองสรภัญญะของนักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป การประกวดโต๊ะหมู่บูชา ประกวดบรรยายธรรมะ นิทรรศการทางพระพุทธศาสนา และโรงทานเฉลิมพระเกียรติ ในช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จัดให้มีขบวนแห่เทียนพรรษาอย่างยิ่งใหญ่จากคุ้มวัดต่างๆในเขตเทศบาลเมือง สุรินทร์ และ อ. เมืองสุรินทร์จำนวนกว่า13 คุ้มวัดที่ตกแต่ง สวยงามอลังการ พร้อมทั้งจัดขบวนแห่ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี การละเล่นพื้นบ้านของชาวจังหวัดสุรินทร์ และ ติดตามด้วยขบวนช้างที่เป็นไฮไล้ของงานที่ไม่เหมือนใครซึ่งแสดงออกถึงจังหวัด สุรินทร์ถิ่นเมืองช้าง มีการตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยสีเงิน สีทอง และหลากสี พร้อมทั้งประดับไฟระยิบระยับแพรวพราวอย่างสวยงาม มีพระพุทธรูปประจำจังหวัดสุรินทร์ พระบรมสารีริกธาตุ พระ บรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อยู่บนหลังช้าง พร้อมทั้งขบวนช้างที่มีพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งจะใช้ช้างจำนวนทั้งสิ้น 83 เชือก และขบวนประชาชนนุ่งขาว ห่มขาวถือธูปเทียนดอกไม้ และแต่งกายในชุดแสดงออกถึงความจงรัก พักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เข้าร่วมขบวนอีกกว่า 1,000 คน โดยขบวนเริ่มจากบริเวณหน้าค่ายวีรวัฒน์โยธิน จังหวัดทหารบกสุรินทร์ เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายต่างๆในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ผ่านอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ชม และไปสิ้นสุดขบวนที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดกิจกรรมเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ วันที่ 26 ก.ค. 53 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ มีแห่งเดียวในโลกที่จังหวัดสุรินทร์ โดยจัดขึ้นที่บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นในเทศกาลวันเข้าพรรษาของในแต่ละปี และเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดควบคู่กับงานมหกรรมแห่เทียนเข้าพรรษา 83 ไอราเทิดไท้องค์ราชาของแผ่นดิน ซึ่งในแต่ละปีจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมในการทำบุญตักบาตร กัน อย่างคึกคักเป็นจำนวนมาก และในปีนี้จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไปเที่ยว ชมและร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ระหว่างวันที่ 24 – 26 ก.ค. 2553 นี้

3 กรกฎาคม 2553

เปิดตัวโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ.2553

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดการประชุมและเปิดตัวโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ.2553 พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม จัดโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ

วันนี้(2 ก.ย.53) เวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดการประชุมและเปิดตัวโครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ.2553 พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม จัดโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยมีนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...