tag:blogger.com,1999:blog-43646202186085511182024-03-22T07:35:30.220+07:00สำนักงานสถิติจังหวัดสุรินทร์Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.comBlogger84125tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-66092206597928914942012-05-11T20:18:00.000+07:002012-05-11T20:19:49.912+07:00รมว.ไอซีที เปิดงานเสวนา “สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม : คุณให้...ใครได้รับ?”<div style="text-align: center;">
<a class="lightbox" href="http://www.mict.go.th/images/article/news5727/n20120508123803_38206.jpg" id="0" rel="flowers"><img border="1" height="213" id="imgx1y0" name="imgx1y0" src="http://www.mict.go.th/images/article/news5727/t20120508123803_38206.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
<div>
</div>
<div>
</div>
<div style="text-align: center;">
<a class="lightbox" href="http://www.mict.go.th/images/article/news5727/n20120508123809_38207.jpg" id="0" rel="flowers"><img border="1" height="213" id="imgx1y0" name="imgx1y0" src="http://www.mict.go.th/images/article/news5727/t20120508123809_38207.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดงานเสวนาระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการในหัวข้อ “สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม : คุณให้...ใครได้รับ?” และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง สถิติและสารสนเทศกับการตัดสินใจเชิงนโยบาย ณ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ สำนักงานสถิติแห่งชาติ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้จัดงานเสวนาดังกล่าวขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงชี้แจงและทำความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลสถิติ ในฐานะที่ต้องเป็นผู้ให้ข้อมูลในการทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม อันเป็นบทบาทสำคัญทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะนำไปใช้ในการวางแผน กำหนดนโยบายและติดตามประเมินผลการพัฒนาในทุกระดับของประเทศไทย อีกทั้งเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2-3 ปี ข้างหน้าAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-43545950148990996232012-04-26T18:35:00.000+07:002012-04-26T18:35:10.849+07:00การประชุมชี้แจงระเบียบการปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูล โครงการ สธอ.55<br />
สำนักงานสถิติจังหวัดสุรินทร์จัดประชุมชี้แจงระเบียบการปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเก็บรวบรวมข้อมูล (พนักงานแจงนับ) พนักงานควบคุมคุณภาพข้อมูล (QC) ระหว่างวันที่ 24 - 25 เมษายน 2555 โดยจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลพร้อมกันทั่วประเทศ ระหว่าง พฤษภาคม - สิงหาคม 2555<b> "ธุรกิจ ดี อุตสาหกรรม ดี เพราะมีข้อมูล ดี ไม่ใช่การตรวจสอบ ไม่เชื่อมโยงภาษี ข้อมูลรายกิจการเป็นความลับตามกฎหมาย"</b><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjD_gGplZ-qbt7dXDV-5KvqzT59Cnlse_2iiFBhWBMqxclciu9mi-ApcigGyey4jP0lhM03kkI0sAjQ3pOPvsgWUROG5Y07AT6pLl8huj9WhPeDU-OYSX6_19yDiFTT_DoGuqT71iNp-Y0K/s1600/t_sto01.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjD_gGplZ-qbt7dXDV-5KvqzT59Cnlse_2iiFBhWBMqxclciu9mi-ApcigGyey4jP0lhM03kkI0sAjQ3pOPvsgWUROG5Y07AT6pLl8huj9WhPeDU-OYSX6_19yDiFTT_DoGuqT71iNp-Y0K/s1600/t_sto01.jpg" /></a></div>
<br />
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-84474067512202844992012-04-07T17:51:00.000+07:002012-04-07T17:53:00.673+07:00สุรินทร์บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานประเพณีช่วงเทศการสงกรานต์ ส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีพื้นบ้าน<br />
นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงาน “สมโภชหลักเมือง วันที่ระลึกพระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง วันทำบุญเพื่อแผ่นดินไทยและงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2555 ณ บริเวณศาลหลักเมืองสุรินทร์ ตลาดไนท์บาชาร์หน้าเทศบาลเมืองสุรินทร์ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จากวาง และเวทีไผทสมันต์ ระหว่างวันที่ 12 – 13 เม.ย. 2555<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjS6NF_z8GAW5lAmHqiMo4i7gR5hGTDamuBTKEWWvr_vtWR41rsearEfQM1wt3qvECw5J7esexgS3Hw3QpcsMNXZ3RU7n8gWeNtsm30IbOm9SHSuV3aPU1RBLrKP5vHM9gIgggcwd-OXI8U/s1600/kachon2008414183629.bmp" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjS6NF_z8GAW5lAmHqiMo4i7gR5hGTDamuBTKEWWvr_vtWR41rsearEfQM1wt3qvECw5J7esexgS3Hw3QpcsMNXZ3RU7n8gWeNtsm30IbOm9SHSuV3aPU1RBLrKP5vHM9gIgggcwd-OXI8U/s1600/kachon2008414183629.bmp" /></a></div>
โดยวันที่ 12 เม.ย. มีพิธีบวงสรวงหลักเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่คู่ชาวสุรินทร์ และที่บริเวณถนนไอยราสุรินทร์ หน้าเทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดกิจกรรมงานย้อนยุคเน้นย้ำแนวคิดอนุรักษ์ประเพณี ด้วยการ “ นุ่งผ้าไหม ใส่โสร่ง รำวงย้อนยุค “ พร้อมทั้งชมความสวยงามในศิลปะและความไพเราะของเพลงพื้นบ้าน กันตรึม เจรียงเบริน และศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอื่นๆ อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้านและบุฟเฟต์<br />
<br />
วันที่ 13 เม.ย. ร่วมสำนึกความเป็นไทย ในพิธีทำบุญตักบาตร พิธีทำบุญเพื่อแผ่นดินไทย และพิธีวางพวงมาลาระลึกถึงพระยาสุรินทรภัคดีศรีณรงค์จางวาง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ชมขบวนแห่สงกรานต์รอบเมืองสุรินทร์ และร่วมเล่นน้ำสงกรานต์บนถนน “ อังกอล์มะลิ “ ข้าวหอมมะลิ ข้างสระน้ำวัดจุมพลสุทธาวาส และถนนไอยราสุรินทร์ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์ ถนนแห่งการสร้างจิตสำนึกในการยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีเล่นน้ำสงกรานต์แบบมีมิตรไมตรี และเตือนสติให้ทุกคนขับขี่รถมีวินัย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุการจราจรในจังหวัดสุรินทร์ เป็นจุดโซนนิ่งเล่นน้ำสงกรานต์<br />
<div>
<br /></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-45894876775576286292012-04-05T14:53:00.000+07:002012-04-05T14:53:18.932+07:00นิรมิตภูมิโปนเทวาลัยแห่งเจนลนคร<br />
จังหวัดสุรินทร์โดยอำเภอสังขะ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลดม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอสังขะ กำหนดจัดงาน“ประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน” ประจำปี 2555 ขึ้นในวันที่ 6-7 เมษายน 2555 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งโบราณสถาน “ปราสาทภูมิโปน” ซึ่งเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นผ่านการแสดงแสง สี เสียง “นิรมิตภูมิโปนเทวาลัยแห่งเจนลนคร” (กำเนิดเนียง ด็อฮฺ ธม)<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjqdxZXk6BK202J_3a_1mZ2Gb1-nSkGESuuYkB9ztz-yiLEbtVex-Y-RCQ1FLaWOliclHPg2V2qOC3rG8mAxuccXaqdZgJeaGPnzRL_Y6sAlv0Lau_B0niTtPogAcHeAYdmOuIK4NlEtm7d/s1600/p_pol.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjqdxZXk6BK202J_3a_1mZ2Gb1-nSkGESuuYkB9ztz-yiLEbtVex-Y-RCQ1FLaWOliclHPg2V2qOC3rG8mAxuccXaqdZgJeaGPnzRL_Y6sAlv0Lau_B0niTtPogAcHeAYdmOuIK4NlEtm7d/s320/p_pol.jpg" width="320" /></a></div>
นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า ปราสาทภูมิโปนเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ประกอบด้วยโบราณสถาน 4 หลัง โดย 3 หลังเป็นปรางค์ก่ออิฐมีหินทรายประกอบ อีกหลังหนึ่งเป็นศิลาแลง สันนิษฐานว่าสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ตามศิลปะแบบไพรกเมง จากการขุดแต่งพบชิ้นส่วนจารึก 1 ชิ้น ที่ปรางค์องค์ใหญ่ จารึกอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต ซึ่งนิยมใช้ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-13 ประกอบกับลวดลายใบไม้ม้วนที่เหลืออยู่เป็นลวดลายแบบที่รับอิทธิพลมาจากศิลปะคุปตะรุ่นหลังของอินเดียรวมทั้งเทคนิควิธีการก่ออิฐที่ไม่ถือปูนแบบศิลปะขอมรุ่นเก่า กับการศึกษาลวดลายเสาประดับกรอบประตู นอกจากนี้ปราสาทภูมิโปนยังมีตำนานรักสามเศร้าของเนียง ด็อฮฺ ธม ที่ได้กล่าวถึงกษัตริย์ขอมองค์หนึ่งได้สร้างเมืองลับไว้กลางป่า ต่อมาเมื่อเมืองหลวงเกิดความไม่สงบมีข้าศึกมาประชิตเมือง กษัตริย์ขอมจึงส่งพระธิดาพร้อม ไพร่พลจำนวนหนึ่งมาหลบซ่อนลี้ภัยที่ภูมิโปน พระธิดานั้นมีพระนามว่า พระนางศรีจันทร์ หรือ เนียง ด็อฮฺ ธม แปลว่า พระนางที่มีหน้าอกบวมงาม ด้วยกิตติศัพท์ความงามของนางเป็นที่โจษขานไปทั่ว จึงเป็นที่หมายปองของพระราชาเมืองต่างๆ ที่ต้องการพระนางมาเป็นพระชายา แต่แล้วก็มีชายหนุ่มเพียง 2 คน คือเจ้าชายโฮลมา แห่งเมืองโฮลมา และนายบุญจันทร์ ทหารคนสนิท ที่มีโอกาส ได้ใกล้ชิดและสร้างสายสัมพันธ์กับพระนาง สุดท้ายแล้วพระนางศรีจันทร์ จะเลือกชายใดเป็นสามี และปริศนาของต้นลำเจียกที่ไม่เคยออกดอกจนเกิดเป็นตำนานปราสาทภูมิโปน “เนียง ด็อฮฺ ธม” ที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน<br />
<br />
จังหวัดสุรินทร์โดยอำเภอสังขะ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลดม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอสังขะ กำหนดจัดงาน“ประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน” ประจำปี 2555 ขึ้นในวันที่ 6-7 เมษายน 2555 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ กิจกรรมภายในงานได้แก่ กิจกรรมวันผู้สูงอายุ (วันที่ 6 เมษายน 2555 ) การแสดงแสง สี เสียง “นิรมิตภูมิโปนเทวาลัยแห่งเจนลนคร” (กำเนิดเนียง ด็อฮฺ ธม) ซึ่งปีนี้ได้รับเกียรติจากนายธัญญ์ ธนากร (ดารา/นักแสดง) ร่วมแสดงเป็นดารานำฝ่ายชายคู่กับ นางสาวไอริณณ์ มหรรทัศนพงฐ์ (ธิดาเมืองช้างสุรินทร์ประจำปี 2554) พิธีเซ่นไหว้พระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีบวงสรวงองค์ปราสาท การเดินแบบแฟชั่นผ้าไหมพื้นเมืองสุรินทร์ ศึกยอดมวยไทยและชมภาพยนตร์ตลอดคืน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอสังขะ โทร. 0 4457 1247 องค์การบริหารส่วนตำบลดม โทร. 0 4414 8266 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 4451 447 -8 E-mail : tatsurin@tat.or.th<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-61355701167567358442012-04-04T19:46:00.000+07:002012-04-04T19:46:10.206+07:00สุรินทร์ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในพื้นที่ 5 อำเภอ 42 ตำบล 551 หมู่บ้าน ราษฏรเดือดร้อนกว่า 3 แสนคน<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj2OQqYVwkYcuzCLxQf9QH-8hKj374f54U2R0Ymcm5WSSU2WTQb-psGfrK6kP252nD8GqlHgj7TNjDTW0biWbCKBJtL97idJappUEX0MMoRlflF2oV0pKODnWDkaYI59O40Zj6B1Srk-qS1/s1600/4.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj2OQqYVwkYcuzCLxQf9QH-8hKj374f54U2R0Ymcm5WSSU2WTQb-psGfrK6kP252nD8GqlHgj7TNjDTW0biWbCKBJtL97idJappUEX0MMoRlflF2oV0pKODnWDkaYI59O40Zj6B1Srk-qS1/s1600/4.jpg" /></a></div>
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ออกประกาศจังหวัดสุรินทร์ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยแล้ง ในเขตจังหวัดสุรินทร์ รวม 5 อำเภอ 42 ตำบล 551 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอโนนนารายณ์ อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิง อำเภอปราสาท และอำเภอบัวเชด<br />
<br />
โดยในพื้นที่อำเภอโนนนารายณ์ ได้เกิดเหตุภัยแล้งในพื้นที่ หมู่ที่ 1-8 ตำบลหนองหลวง , หมู่ที่ 1-15 ตำบลโนน , หมู่ที่ 1-13 ตำบลระเวียง , หมู่ที่ 1-12 ตำบลคำผง และหมู่ที่ 1-20 ตำบลหนองเทพ อำเภอ โนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ รวมพื้นที่ประสบภัย 5 ตำบล 68 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค จำนวน 6,298 ครัวเรือน 35,368 คน<br />
<br />
อำเภอสังขะเกิดภัยแล้งในพื้นที่ หมู่ที่ 1-12 ตำบลดม , หมู่ที่ 1-17 ตำบลสังขะ , หมู่ที่ 1-18 ตำบลตาตุม , หมู่ที่ 1-21 ตำบลกระเทียม , หมู่ที่ 1-14 ตำบลตาคง , หมู่ที่ 1-13 ตำบลบ้านจารย์ , หมู่ที่ 1-13 ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ รวมพื้นที่ประสบภัย 7 ตำบล 108 หมู่บ้าน เป็นเหตุให้ราษฎรขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร โดยมีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 4,760 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 13,648 ครัวเรือน 63,554 คน <br />
<br />
อำเภอกาบเชิงเกิดเหตุภัยแล้ง ในพื้นที่หมู่ที่ 1-20 ตำบลกาบเชิง , หมู่ที่ 1-18 ตำบลด่าน , หมู่ที่ 1-15 ตำบลแนงมุด , หมู่ที่ 1-14 ตำบลโคกตะเคียน , หมู่ที่ 1-10 ตำบลคูตัน และหมู่ที่ 1-9 ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ รวมพื้นที่ประสบภัยจำนวน 6 ตำบล 68 หมู่บ้าน ราษฎรขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค จำนวน 2,500 ครัวเรือน 43,700 คน <br />
<br />
อำเภอปราสาท ได้เกิดเภัยแล้งในพื้นที่ หมู่ที่ 1-18 ตำบลกังแอน , หมู่ที่ 1-18ตำบลโคกยาง , หมู่ที่ 1-19 ตำบลตาเบา , หมู่ที่ 1-19 ตำบลโคกสะอาด , หมู่ที่ 1-19 ตำบลปรือ , หมู่ที่ 1-16 ตำบลหนองใหญ่ , หมู่ที่ 1-14 ตำบลบ้านพลวง , หมู่ที่ 1-14 ตำบลโชคนาสาม , หมู่ที่ 1-12 ตำบลไพล , หมู่ที่ 1-9 ตำบลประทัดบุ , หมู่ที่ 1-11 ตำบลปราสาททนง , หมู่ที่ 1-13 ตำบลทมอ , หมู่ที่ 1-9 ตำบลบ้านไทร , หมู่ที่ 1-8 ตำบลกันตวจระมวล , หมู่ที่ 1-8 ตำบลสมุด , หมู่ที่ 1-9 ตำบลตานี , หมู่ที่ 1-12 ตำบลเชื้อเพลิง และหมู่ที่ 1-11 ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ รวมพื้นที่ประสบภัย จำนวน 18 ตำบล 239 หมู่บ้าน เป็นเหตุให้ราษฎรราษฎรได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค 36,737 ครัวเรือน 145,732 คน<br />
<br />
อำเภอบัวเชดได้เกิดเหตุเกิดภัยแล้ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1-10 ตำบลสำเภาลูน , หมู่ที่ 1-12 ตำบลสะเดา , หมู่ที่ 1-10 ตำบลตาวัง , หมู่ที่ 1-11 ตำบลอาโพน , หมู่ที่ 1-12 ตำบลจรัส และหมู่ที่ 1-13 ตำบลบัวเชด อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ รวมพื้นที่ประสบภัยจำนวน 6 ตำบล 68 หมู่บ้าน เป็นเหตุให้ราษฎรขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภคและก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 9,860 ครัวเรือน 39,255 คน<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-7242918869412794192012-03-20T12:23:00.004+07:002012-03-20T12:23:59.712+07:00ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีขึ้นเขาสวาย เคาะระฆังพันใบ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันที่ 23 มีนาคม 2555 ณ วนอุทยานพนมสวาย จังหวัดสุรินทร์<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.goosiam.com/news/news1/admin/my_documents/my_pictures/CAE_552000003481501.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="266" src="http://www.goosiam.com/news/news1/admin/my_documents/my_pictures/CAE_552000003481501.jpg" width="400" /></a></div>
<br />จังหวัดสุรินทร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมสำคัญ ซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมืองมาอย่างยาวนานแห่งหนึ่ง คือ “เขาสวาย” หรือ “พนมสวาย” ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาสวาย ในพื้นที่ตำบลนาบัวและตำบลสวาย อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 22 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ติดต่อกัน รอง ๆ บริเวณ มีเวิ้งน้ำใหญ่ ทิวทัศน์สวยงาม มีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด มียอดเขาที่สำคัญ 3 ยอด ยอดที่ 1 เรียกว่า ยอดเขาชาย(พนมเปร๊าะ) สูง 220 เมตร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสุรินทรทรมงคลและระฆังมหากุศล 1,080 ใบ จาก 1,080 วัด ยอดที่ 2 เรียกว่ายอดเขาหญิง(พนมสรัย) สูง 210 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลาราม ยอดเขาที่ 3 เรียกว่า เขาคอก (พนมกรอล) สูง 150 เมตร เป็นที่ตั้งศาลาอัฐฐะมุข ซึ่งเป็นอนุสรณ์ฉลองครบรอบ 200 ปี แห่งการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง เขาสวาย มีความสำคัญต่อชาวสุรินทร์มาตั้งแต่โบราณกาล กล่าวคือ เมื่อถึงเดือนห้าของทุกปีบรรพบุรุษชาวสุรินทร์จะถือว่าเป็นงานประเพณีหยุดงาน ซึ่งการหยุดงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ตอมตู๊จ ซึ่งหมายถึงวันหยุดงานเหล็ก จะมีการหยุดงาน ทำงานเพียง 3 วัน นับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 3 ค่ำ เดือนห้า ช่วงที่ 2 ช่วงตอมธม หมายถึง วันหยุดใหญ่ จะมีการหยุดทำงานทั้งหมด 7 วัน นับแต่วันแรม 1 ค่ำ ถึงวันแรม 7 ค่ำ เดือนห้า ซึ่งประเพณีการหยุดงานตามช่วงระยะเวลาดังกล่าว ชาวสุรินทร์มีความเชื่อว่า ต้องหยุดการทำงานทั้งหมด หากใครไม่หยุดทำงานก็จะมีอันเป็นไปและในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ชาวจังหัดสุรินทร์จะร่วมมือร่วมใจจัดงานบุญประเพณีขึ้นเขาสวายขึ้น ประกอบกับวันดังกล่าวถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.goosiam.com/news/news1/admin/my_documents/my_pictures/452_552000003481503.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="http://www.goosiam.com/news/news1/admin/my_documents/my_pictures/452_552000003481503.jpg" width="320" /></a></div>
ดังนั้น ชาวสุรินทร์จะหยุดงานและพากันเดินทางไปขึ้นเขาสวายเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคลชีวิตต่อตนเองและครอบครัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาสวายประกอบด้วย พระใหญ่หรือพระพุทธสิรนทรมงคล รอยพระพุทธบาทจำลอง อัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล พระพุทธรูปองค์ดำ หลวงปู่สวน ปราสาทหินพนมสวาย ศาลเจ้าแม่กวนอิม เตาหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาปี 2551 จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราช โดยได้ดำเนินการจัดหาระฆัง จำนวน 1,080 ใบ จากวัดทุกวัดในจังหวัดสุรินทร์ และวัดสำคัญอีก 10 วัด นำไปติดตั้งบริเวณทางขึ้นบันไดไปนมัสการพระพุทธสุรินทรมงคล และบริเวณรอบ ๆ สถูปบรรจุอัฐิหลวงปู่ดุล อตุโล ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ สวยงาม ปรากฏต่อสื่อสาธาณะอย่างกว้างขวาง และคาดว่าน่าจะเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เคาะระฆังเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-64403181921810132932012-03-08T20:05:00.002+07:002012-03-08T20:05:53.370+07:00ขอเชิญร่วมงานกิจกรรมวันช้างไทยและร่วมเลี้ยงอาหารช้าง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img94.imageshack.us/img94/5844/elephant1d.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://img94.imageshack.us/img94/5844/elephant1d.jpg" /></a></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0pt; margin-left: 0cm; margin-right: 0cm; margin-top: 0cm; text-indent: 70.9pt;">
<span lang="TH">นายธงชัย มุ่งเจริญพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ </span>26 <span lang="TH">พฤษภาคม พ.ศ. </span>2541 <span lang="TH">กำหนดให้วันที่ </span>13 <span lang="TH">มีนาคม ของทุกปี เป็น </span>“<span lang="TH">วันช้างไทย</span>” <span lang="TH">เพื่อ
เป็นการยกย่องให้เกียรติว่าช้างเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึง
ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นช้างในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ
หรือช้างเป็นสัตว์คู่พระบารมีพระมหากษัตริย์
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์จึงได้จัดงานวันช้างไทยขึ้นเป็นประจำทุกปี
และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ นับเป็นองค์กรหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการดูแลและอนุรักษ์ช้างสุรินทร์ รวมทั้งดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนผ่านโครงการ</span> “<span lang="TH">นำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด</span>” <span lang="TH">เนื่องจากตระหนักว่าช้างเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของประเทศ เป็นสัตว์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหัดสุรินทร์และประเทศไทยมานานกว่า </span>40 <span lang="TH">ปี สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในประเทศสร้างเม็ดเงินให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยตลอดมา </span></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0pt; margin-left: 0cm; margin-right: 0cm; margin-top: 0cm; text-indent: 70.9pt;">
<span lang="TH">ดังนั้น เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณให้แก่ช้างไทยและยกย่องให้เกียรติช้างไทยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จึงได้จัดงาน </span>“<span lang="TH">วันช้างไทย</span>” <span lang="TH">ขึ้น เป็นประจำทุกปี โดยจัดให้ตรงกับวันที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนดนั่นคือ วันที่ </span>13 <span lang="TH">มีนาคม
ของทุกปี เพื่อยกย่องช้างไทยประกาศเกียรติคุณช้างไทย
เพื่อสร้างความตระหนักให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เห็นความสำคัญของช้าง
เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมอช้าง ควาญช้าง และช้างที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ศูนย์คชศึกษาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้จัดโต๊ะเลี้ยงอาหารช้างทุกเชือกในศูนย์คชศึกษา และได้จัดกิจกรรมในวันช้างไทย เช่น พิธีเซ่นไหว้ศาลปะกำ </span> <span lang="TH">พิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่หมอช้าง ควาญช้าง และช้างที่เสียชีวิตไปแล้ว กิจกรรมประกาศเกียรติคุณช้างไทย/เลี้ยงอาหารช้าง กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ของควาญช้าง/ประกาศเกียรติคุณควาญช้าง/หมอช้าง </span> <span lang="TH">กิจกรรมการรับบริจาคเงินช่วยเหลือช้างสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ </span></div>
<div class="MsoNormal" style="margin-bottom: 0pt; margin-left: 0cm; margin-right: 0cm; margin-top: 0cm; text-indent: 70.9pt;">
<span lang="TH">จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจทุกท่านร่วมกิจกรรมวันช้างไทย ในวันที่ </span>13 <span lang="TH">มีนาคม </span>2555 <span lang="TH">ณ
ศาลาอเนกประสงค์ศูนย์ คชศึกษา บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม
จังหวัดสุรินทร์
ท่านจะได้ทัศนศึกษาเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับช้างไทยภายในพิพิธภัณฑ์ช้าง
เพลิดเพลินไปกับการแสดงของช้างแสนรู้
นั่งแท็กซี่ช้างชมทัศนียภาพภายในศูนย์คชศึกษา ดูช้างเล่นน้ำที่วังทะลุ
ตลอดจนร่วมทำบุญบริจาคอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต </span></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-43906290399005077802012-03-08T19:16:00.001+07:002012-03-08T19:20:01.147+07:00ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว โครงการ สธอ. 2555<br />
<div style="text-align: center;">
<b>ประกาศจังหวัดสุรินทร์</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b>เรื่อง ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติงานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๕๕</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b>---------------------------------------</b></div>
<br />
ตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นลูกจ้างชั่วคราวโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๕๕ ปฏิบัติงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเปิดรับสมัครทางระบบ Internet ผ่าน Website http://www.nso.go.th ระหว่างวันที่ ๑๓ - ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และได้กำหนดการคัดเลือกโดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ในวันที่ ๑ - ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ นั้น<br />
<br />
บัดนี้ การดำเนินการคัดเลือกฯ ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จังหวัดสุรินทร์ จึงขอประกาศรายชื่อ ผู้ผ่านการคัดเลือก และขึ้นบัญชีผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้<br />
<br />
ทั้งนี้ ขอแจ้งให้ผู้ผ่านการคัดเลือกได้ทราบตามรายละเอียดดังนี้<br />
<b>๑. ผู้ผ่านการคัดเลือกลำดับที่ ๑ - ๑๖ มารายงานตัว ในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ณ สำนักงานสถิติจังหวัดสุรินทร์</b><br />
<b>๒. ผู้ที่ไม่มารายงานตัวตามวัน เวลา ที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์</b><br />
<b>๓. บัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกนี้ใช้ได้ไม่เกิน ๒ ปี นับแต่วันประกาศนี้ แต่ถ้าหากมีการคัดเลือกในลักษณะเดียวกันนี้อีก และได้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกใหม่แล้ว บัญชีนี้ถือเป็นอันยกเลิก</b><br />
<br />
ดาวน์โหลด<br />
<a href="http://goo.gl/YVSmM" target="_blank">ประกาศผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว</a>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-35998196467279411402012-02-29T06:30:00.000+07:002012-02-29T06:30:01.878+07:00สสช. เก็บข้อมูล E-Commerce เชิงรุก<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDALdZbW-iXt9DITVZcDNPXn97O2fVJ4la6GO-UrcLdcdCwTtvw9rryk1Kr6kuhN5X1fQN-YuTJAjL8PHw1MUWbgCbN3xhM5YpL9IlevNO3V06Yly6H-4h5h55vE0wUtO5K_lYUOCy3nna/s1600/boss_nso2.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhDALdZbW-iXt9DITVZcDNPXn97O2fVJ4la6GO-UrcLdcdCwTtvw9rryk1Kr6kuhN5X1fQN-YuTJAjL8PHw1MUWbgCbN3xhM5YpL9IlevNO3V06Yly6H-4h5h55vE0wUtO5K_lYUOCy3nna/s320/boss_nso2.jpg" width="200" /></a></div>
นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บรวบรวมข้อมูล สถานภาพการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ระหว่างเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ๒๕๕๕ นี้ พร้อมกัน<br />
<br />
นายวิบูลย์ทัตฯ กล่าวว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำการสำรวจสถานภาพการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพและพัฒนาการ ของการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ทั้งในเรื่องของประเภทธุรกิจที่ทำ จำนวนคนทำงาน การตลาด ผลประกอบการ การชำระเงิน การจัดส่งสินค้าตลอดจนปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะที่ต้องการ ให้ภาครัฐ เข้ามาช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อนำไปใช้ในการวางแผน การกำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถแข่งขันทางการค้าได้ในระดับสากล นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการพัฒนาที่ผ่านมา สำหรับภาคเอกชนสามารถใช้เป็นแนวทาง ในการขยายตลาด การปรับตัว และการแข่งขันให้สอดรับกับสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น<br />
<br />
สำนักงานสถิติแห่งชาติขอความร่วมมือผู้ที่เป็นตัวอย่างของการสำรวจในครั้งนี้ให้ข้อมูลที่เป็นจริง แก่เจ้าหน้าที่ที่ไปพบและสัมภาษณ์ท่าน ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2555 นี้ ด้วย หากสงสัยสอบถามได้ที่ 0-2142-1234<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-33272171204430353032012-02-28T10:21:00.000+07:002012-02-28T10:21:19.293+07:00สำนักงานสถิติฯ ระดมเจ้าหน้าที่สำรวจการใช้เทคโนโลยี<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDqjplnSxprC4CB_NWErG2jRIfdzNeTeAGuqE2PJgVZuPemVL7pUaeudXmy8cSAVtGcuIDmNpJeUx7a4EpoZ1pTO0Vapfks2oo8TA_AFlnHO-Fb_DQjgHCz10rL05366VnrCbskeL1zv98/s1600/boss_nso.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDqjplnSxprC4CB_NWErG2jRIfdzNeTeAGuqE2PJgVZuPemVL7pUaeudXmy8cSAVtGcuIDmNpJeUx7a4EpoZ1pTO0Vapfks2oo8TA_AFlnHO-Fb_DQjgHCz10rL05366VnrCbskeL1zv98/s1600/boss_nso.jpg" /></a></div>
นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บรวบรวมข้อมูลการมีการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในสถานประกอบการ ระหว่างเดือนมีนาคม–พฤษภาคม พร้อมกันทั่วประเทศ<br />
<br />
สำนักงานสถิติแห่งชาติในฐานะที่มีบทบาทเกี่ยวกับการผลิตข้อมูลสถิติเพื่อใช้ ในการพัฒนาประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของภาคธุรกิจ จึงได้จัดทำโครงการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในสถานประกอบการ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทำธุรกิจ เช่น การมีการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต บุคลากรที่ปฏิบัติงานด้าน ICT ความต้องการจ้างบุคลากร ด้าน ICT ข้อจำกัดของการใช้ ICT และความต้องการของผู้ประกอบการในการให้ภาครัฐช่วยเหลือ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ในการกำหนดนโยบาย วางแผน ส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในสถานประกอบการให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบและมาตรการต่างๆ เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในสถานประกอบการ สำหรับภาคเอกชน ผลจากการส่งเสริมและพัฒนาของภาครัฐ ทำให้สถานประกอบการสามารถลงทุนด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการขยายกิจการให้มากขึ้น และส่งผลให้มี การลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ของสถานประกอบการ<br />
<br />
สำนักงานสถิติแห่งชาติขอความร่วมมือผู้ที่เป็นตัวอย่างของการสำรวจในครั้งนี้ให้ข้อมูลที่เป็นจริงแก่เจ้าหน้าที่ ที่ไปพบและสัมภาษณ์ท่านช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2555 นี้ ด้วย หากสงสัยสอบถามได้ที่ 0-2142-1234Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-16534230962928768262012-02-24T10:59:00.001+07:002012-02-24T11:12:07.468+07:00ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ลูกจ้างชั่วคราวฯ<div style="text-align: center;">
<b><br />ประกาศจังหวัดสุรินทร์</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b>เรื่อง รายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือกเพื่อปฏิบัติงานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555</b></div>
<div style="text-align: center;">
<b>...............................</b></div>
<br />
<div #4d4d4f;="" align="center" color:="" style="color: #4d4d4f;">
<div style="text-align: left;">
ตามที่ได้มีประกาศสำนักงานสถิติแห่งชาติ ลงวันที่ 31 มกราคม 2555 เรื่อง รับสมัครลูกจ้างชั่วคราวโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 เพื่อปฏิบัติงานในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 1,303 อัตรา และสำนักงานสถิติจังหวัดสุรินทร์ ได้รับจัดสรรจำนวน 16 อัตรา ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2555 ทางระบบ Internet ผ่าน Website http://www.nso.go.th นั้น บัดนี้การรับสมัครได้เสร็จสิ้นลงแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือก และกำหนดวัน เวลา สถานที่สอบคัดเลือก ตามรายละเอียดต่อไปนี้<br /></div>
</div>
<div style="color: #4d4d4f;">
<strong>1. กำหนดวัน เวลา สอบคัดเลือก </strong> <br />
วันที่ 1 มีนาคม 2555<br />
เวลา 08.30 น. - 12.00 น. ลำดับที่ 1 - 48<br />
เวลา 13.00 น. - 16.00 น. ลำดับที่ 49 - 96<br />
วันที่ 2 มีนาคม 2555<br />
เวลา 08.30 น. - 12.00 น. ลำดับที่ 97 - 142</div>
<div style="color: #4d4d4f;">
<strong><br />2. สถานที่สอบคัดเลือก </strong>สำนักงานสถิติจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ ๒/๕-๖ ถนนศิริรัฐ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์</div>
<div style="color: #4d4d4f;">
<br />3<strong>. ผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือก ต้องเป็นผู้มีรายชื่อตามบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศนี้</strong></div>
<div style="color: #4d4d4f;">
<br />- <a href="http://goo.gl/CFsLo" target="_blank">ดาวน์โหลดประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์</a><br />
- <a href="http://service.nso.go.th/nsojob/index.php?c=1" target="_blank">ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์สัมภาษณ์</a> </div>
<div style="color: #4d4d4f;">
<strong><span style="color: #0000cc;"><br />*****ผู้สมัครจะต้องพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ และติดรูปถ่าย นำมาพร้อมเอกสารตัวจริง(บัตรประจำตัวประชาชน) ในวันสอบสัมภาษณ์ ***</span></strong><br />
<b>ขั้นตอนการพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ</b><br />
ขั้นตอนที่ 1 คลิกที่ "ตรวจสอบรายชื่อ"<br />
ขั้นตอนที่ 2 กรอกเลขประจำตัวประชาชนในช่องที่กำหนด แล้วกดปุ่ม "ค้นหา" จะปรากฏบัตรประจำตัวสอบ(ฉบับร่าง)<br />
ขั้นตอนที่ 3 กดปุ่ม "พิมพ์บัตรประจำตัวสอบ" จะปรากฏบัตรประจำตัวสอบ(ฉบับจริง) ให้พิมพ์หน้านี้แล้วตัดขอบตามที่กำหนด แล้วติดรูปถ่าย<br />
<br />
<strong><span style="color: red;">***ผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบคัดเลือก ไม่มาสอบตามวันและเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์***</span></strong></div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-8753346331107642062011-11-16T15:40:00.001+07:002011-11-16T15:43:50.158+07:00รายงานสถิติรายปีประเทศไทย พ.ศ. 2554<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi_WeA9JnQfPfN8duTdn4SIL395BziSZbQ3Y5C5pnvEr5QoVnR_wXduZG69h9YC4D5Drk9iBJRAMgLJc93UtXBWLqYU1MIgezZ1n8ziqUIbhri1cF0UKeHO8yCrJ9R7IPNKA4p9N7JR9Sb3/s1600/SYB_54_T_Page_001.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="200" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi_WeA9JnQfPfN8duTdn4SIL395BziSZbQ3Y5C5pnvEr5QoVnR_wXduZG69h9YC4D5Drk9iBJRAMgLJc93UtXBWLqYU1MIgezZ1n8ziqUIbhri1cF0UKeHO8yCrJ9R7IPNKA4p9N7JR9Sb3/s200/SYB_54_T_Page_001.jpg" width="141" /></a></div>
รายงานสถิติรายปีประเทศไทย พ.ศ. 2554 ฉบับนี้เนื้อหาประกอบด้วย ส่วนที่หนึ่ง เป็นการนำเสนอแผนที่ประเทศไทย ความรู้เกี่ยวกับประเทศไทย และตัวชี้วัดที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้ข้อมูลได้มีความรู้ความเข้าใจและมองเห็นภาพเกี่ยวกับประเทศไทย ส่วนที่สอง เป็นการนำเสนอข้อมูลสถิติในรูปของตารางสถิติ และแผนภูมิสถิติ โดยนำเสนอเป็น 23 บทตามสาขาสถิติ โดยมีบทนำประกอบการใช้ข้อมูลสถิติ เพื่อให้ผู้ใช้ข้อมูลทราบถึงความเป็นมา หรือความหมายของข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งได้ระบุแหล่งที่มาของข้อมูลไว้ใต้ตารางสถิติทุกตารางเพื่อให้ผู้ใช้ข้อมูลสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ <br />
<br />
[<a href="http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/download/syb_54/SYB_54_T.pdf">ดาวน์โหลด รายงานสถิติรายปีประเทศไทย พ.ศ. 2554</a>]Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-21799041592694390372011-11-04T10:40:00.000+07:002011-11-04T10:40:57.423+07:00ภาวะการทำงานของประชากรจังหวัดสุรินทร์ ไตรมาส 1/2554<div>
ผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2554 ซึ่งเป็นการสำรวจไตรมาสที่ 1 ของช่วงปี พบว่าจังหวัดสุรินทร์มีจำนวนประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป 1,132,373 คน เป็นผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน 747,216 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 66.0 ของประชากร เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน 385,112 คน คิดเป็นร้อยละ 34.0</div>
<div>
สำหรับกลุ่มผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานทั้งหมด 747,261 คน นั้นแยกได้เป็น</div>
<ol>
<li>ผู้มีงานทำ จำนวน 719,609 คน คิดเป็นร้อยละ 96.3 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน</li>
<li>ผู้ว่างงาน ซึ่งหมายถึงผู้ไม่มีงานทำและพร้อมที่จะทำงานมีจำนวน 6,360 คน คิดเป็น ร้อยละ 0.9</li>
<li>ผู้ที่รอฤดูกาล ซึ่งหมายถึงผู้ที่ไม่ได้ทำงานและไม่พร้อมที่จะทำงาน เนื่องจากจะรอทำงาน ในฤดูกาลต่อไป มีจำนวน 21,292 คิดเป็นร้อยละ 2.8</li>
</ol>
<div>
</div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-75003147552239154022011-10-18T10:00:00.000+07:002011-10-18T10:00:04.786+07:00สถานการณ์เด็กไทย…….ภาพสะท้อนสังคม??จากการเปลี่ยนแปลงที่หลากหลายด้านสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ จำเป็นอย่างยิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดต้องทำหน้าที่อบรม สั่งสอน และให้ความเอาใส่ใจดูแลเด็กอย่างมาก ตลอดจนต้องทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อสามารถนำพาเด็กๆ ให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องต่อไป
<br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;">ครอบครัว ปัจจัยหล่อหลอมเด็กไทย</span></strong>
<br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj0R6tvE7or0a8puaLvxRUoYhktnwrUmUFgprergQUoYhus0FZdM1YfjKnczKxaUVrwlc6sV6iByp7jcC6z7LJLPyko7SV6rtXwNDKa-6JxcwLWw1UhGQ14XIRs3QQAiHTqHCuqrJ8hgA6F/s1600/gc1.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="269" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj0R6tvE7or0a8puaLvxRUoYhktnwrUmUFgprergQUoYhus0FZdM1YfjKnczKxaUVrwlc6sV6iByp7jcC6z7LJLPyko7SV6rtXwNDKa-6JxcwLWw1UhGQ14XIRs3QQAiHTqHCuqrJ8hgA6F/s320/gc1.png" width="320" /></a>การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวมีพ่อ แม่ และลูกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพ่อและแม่อย่างสมบูรณ์ นับว่าครอบครัวมีบทบาทสำคัญต่อเด็กอย่างมากในการหล่อหลอมและสร้างเด็กให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพทั้งความรู้ คุณธรรม และจริยธรรม สามารถดำรงชีวิตร่วมกับบุคคลอื่นในสังคม และสร้างให้สังคมน่าอยู่ต่อไปได้
แม้โครงสร้างของครัวเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวเดี่ยวที่มีพ่อ แม่ และลูก แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ จากร้อยละ 65.6 ในปี 2530 เป็นร้อยละ 52.3 ในปี 2552 ขณะที่ครัวเรือนขยายที่มีพ่อ แม่ ลูก และญาติพี่น้องอื่นๆอยู่ด้วยนั้น จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 27.6 ในปี 2530 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35.8 ในปี 2552 อย่างไรก็ดี พบว่าในรอบ สองทศวรรษที่ผ่านมา การอยู่คนเดียวนั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการย้ายออกไปทำงานในเมืองอื่นๆ มากขึ้น จึงทำให้ต้องแยกครัวเรือนออกมา
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน พบว่า ในปี 2551 มีเด็กจำนวน 1 ใน 5 ของเด็กทั้งหมดที่อายุไม่เกิน 17 ปี (หรือร้อยละ 20.1) ไม่ได้อยู่กับพ่อและแม่ โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 19.3 ในปี 2548 เป็นเพราะพ่อและแม่ แยกทางกัน หรือต้องไปทำงานที่อื่นจึงต้องทิ้งบุตรหลานให้บุคคลอื่นเช่น ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติพี่น้องเลี้ยงดูแทน
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQ5iTsSyKJ6O5sIOWyKntMvieI7bqkVjqy-4D7lypftqH5wrqjBw6VTuUVRvSz3HQgGmsSQhyJyCRbOOvjb_KR2AUegK_lsTRwzsLNs_X7QS27h3p7mzx8asCPrAJqfW4y54SStF_eCJwk/s1600/gc2.png" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="253" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhQ5iTsSyKJ6O5sIOWyKntMvieI7bqkVjqy-4D7lypftqH5wrqjBw6VTuUVRvSz3HQgGmsSQhyJyCRbOOvjb_KR2AUegK_lsTRwzsLNs_X7QS27h3p7mzx8asCPrAJqfW4y54SStF_eCJwk/s320/gc2.png" width="320" /></a></div>
จากข้อมูลดังกล่าว จึงทำให้เกิดคำถามว่า<strong> “ทุกวันนี้ ผู้ปกครองได้ให้ความเอาใจใส่เด็กๆ มากพอหรือยัง?"</strong> ซึ่งผลสำรวจการใช้เวลาของประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าการใช้เวลาใน 1 วันของคนไทยนั้น ใช้เวลาในการดูแลเด็ก ซึ่งรวมถึงการดูแลด้านร่างกาย การอบรมให้คำแนะนำ การใช้เวลารับส่งเด็กไปยังสถานที่ต่างๆ และการดูแลด้านจิตใจมีเพียง 2.1 ชั่วโมงต่อวันในปี 2544 เท่านั้น แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.3 ชั่วโมงต่อวันในปี 2547 แต่ก็ถือว่าเป็นการใช้เวลาสำหรับเด็กที่น้อยมาก
แม้โดยรวมครอบครัวไทยยังดำรงความสัมพันธ์อย่างดีทั้งระบบครอบครัวและระบบเครือญาติ แต่ปัจจัยภายนอกก็มีส่วนสำคัญต่อการกำหนดพฤติกรรมของเด็กด้วย จากการที่สังคมได้เปลี่ยนเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ผู้คนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็วทั่วทุกมุมโลกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทำให้เด็กบริโภคข้อมูลบนสื่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างเสรีแบบ Anytime Anywhere และ Anything แล้วเช่นนี้เด็กไทยจะเป็นอย่างไรหรือต้องเผชิญอะไรบ้างในโลกไร้พรมแดน
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhCOjXeS5smEXPmiJPoaxpWx0XXqKrd9H-YHKcnuBcKyOYj-a8-j-dcmXJ3m5RrHvaVO-YIU6PXaP5dKM2IikN2koA62dJcqejizs0d0YfW5o24ehN2h1PK7KSyWrzqdJRISRVG3jXYBzkP/s1600/gc3.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhCOjXeS5smEXPmiJPoaxpWx0XXqKrd9H-YHKcnuBcKyOYj-a8-j-dcmXJ3m5RrHvaVO-YIU6PXaP5dKM2IikN2koA62dJcqejizs0d0YfW5o24ehN2h1PK7KSyWrzqdJRISRVG3jXYBzkP/s1600/gc3.png" /></a></div>
<strong><span style="font-size: large;">เกมออนไลน์...สร้างสรรค์จินตนาการหรือมอมเมา???</span></strong>
<br />
<strong>“เด็กติดเกม”</strong> หลายคนคงจะคุ้นหู เพราะมีการพูดกันในวงกว้างเกี่ยวกับเนื้อหาสาระที่ไม่เหมาะสม กับเด็ก การติดเกมจนทำให้เสียสุขภาพ และการเรียน แต่ใครจะทราบบ้างว่า หากมองอีกด้านหนึ่งเกมออนไลน์นั้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตของเด็กๆ เพราะนอกจากการเล่นเกมที่ได้รับความเพลิดเพลินแล้ว เด็กๆ ยังได้ทักษะในการใช้อินเทอร์เน็ต การติดตามข่าวสาร และการค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ด้วยตัวของเด็กๆ เอง
โดยจากผลสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า เด็กไทยใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในการเรียน การศึกษา และค้นหาข้อมูล/ติดตามข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต ยกเว้นเด็กอายุ 6-10 ปี เท่านั้นที่ส่วนใหญ่ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมส์ ส่วนแหล่งที่ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ใช้ที่โรงเรียนและบ้าน โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง
<br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;">วัฒนธรรมไทย...เกราะป้องกันภัย???</span></strong>
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคม ตลอดจนการรับวัฒนธรรมแบบไม่ไตร่ตรองก่อน จะเป็นตัวอย่างให้เด็กลอกเลียนแบบ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปกครองและสังคมต้องเตรียมความพร้อมและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กในการรับและปรับไปใช้ในทางที่ถูกต้อง แม้ผลจากการสำรวจการเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมในปี 2548 จะพบว่าวัยรุ่นไทยยังคงมีพฤติกรรมและจิตสำนึกที่ดี ไม่ทำตัวเป็นภาระหรือปัญหาของสังคม โดยวัยรุ่นอายุ 13 – 24 ปี ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการอ่านหนังสือ (ร้อยละ 85.5) และเล่นกีฬา ร้อยละ 78.4 แต่ก็มีวัยรุ่นถึงเกือบครึ่งที่เล่นเกมคอมพิวเตอร์ (ร้อยละ 41.3)
นอกจากนี้ยังพบข้อน่าเป็นห่วง ก็คือ การมีพฤติกรรมนอนดึกตื่นสาย การเที่ยวกลางคืนและเที่ยวเตร่เป็นประจำ แม้จะมีน้อยกว่าร้อยละ 6 แต่ก็นับว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะกับวัย แต่อย่างไรก็ตามในการสำรวจสภาวะทางสังคม วัฒนธรรม และสุขภาพจิต ปี 2551 พบเรื่องที่น่ายินดีว่า เด็กไทยที่นับถือศาสนาพุทธอายุ 13-14 ปี ประมาณร้อยละ 80 ระบุว่าเคยตักบาตร และสวดมนต์ ร้อยละ 67.4 ระบุว่าเคยถวายสังฆทาน และประมาณร้อยละ 30 ระบุว่าเคยรักษาศีล 5 (ครบทุกข้อ) และทำสมาธิ ซึ่งจากข้อมูลในภาพรวมนี้อาจแสดงให้เห็นได้ว่าอย่างน้อยก็ยังมีเด็กบางส่วนทื่ถือได้ว่าเป็น<strong> “เด็กไทย….ยังไม่ไกลวัด”</strong>
จากที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะไม่ใช่ภาพสะท้อนทั้งหมดของเด็กและเยาวชนไทย แต่ก็เป็นปรากฎการณ์ที่ต้องการสะท้อนให้สังคมได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะเด็กคือพลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต เปรียบเสมือนผ้าขาวที่พร้อมจะรับการแต่งแต้มสีจากผู้ใหญ่ จำเป็นอย่างยิ่งที่ครอบครัว โรงเรียน ครู และสังคมจะต้องเป็นและสร้างแบบอย่างที่ดี เพื่อที่พวกเค้าจะได้ <strong>“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ”</strong> เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป
<br />
<br />
<strong>ที่มา:</strong> กลุ่มงานวิเคราะห์และพยากรณ์สถิติเชิงสังคม สำนักสถิติพยากรณ์Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-10126159234189220372011-10-17T20:25:00.001+07:002011-11-14T16:05:32.038+07:00งานช้างและงานกาชาดสุรินทร์ 2554<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img205.imageshack.us/img205/183/vinil.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://img205.imageshack.us/img205/183/vinil.jpg" /></a></div>
<br />จังหวัดสุรินทร์ มีช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณอีกทั้งชาวกวยหรือกูย ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองในอดีตได้จับช้างป่ามาฝึก เพื่อใช้งานในด้านต่างๆเช่น การพาหนะ การขนส่ง รวมถึง ช้างยังมีบทบาทในการประกอบพิธีทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวกวย ชาวกวยแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้นระหว่างคนกับช้าง ชาวกวยจึงเลี้ยงช้างในฐานะที่เป็นสัตว์เลี้ยงเสียมากกว่าจะเป็นสัตว์ที่ไว้ ใช้งาน การฝึกช้างของชาวกวยจึงเป็นการฝึกช้างให้เชื่องและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า ของ ด้วยความเฉลียวฉลาด และความสามารถในการปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ของช้างนี้เอง กลุ่มผู้นำในหมู่บ้านได้เล็งเห็น และรวมตัวกันเพื่อแสดงให้คนภายนอกเห็นถึงความผูกพันของคนกับช้างที่สามารถ อยู่ร่วมกันและสื่อสารกันได้พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันแสนพิเศษ ของช้างไทย การแสดงช้างครั้งแรก จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ณ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จากความน่ารัก ความแสนรู้ของช้างสุรินทร์ ในครั้งนั้น ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สร้างชื่อเสียงและความประทับใจให้แก่ผู้ชมทั้ง ชาวไทย และชาวต่างชาติทั่วโลก<br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;">กิจกรรมเด่น</span></strong><br />
<br />
<strong>วันที่ 17 พฤศจิกายน 2554</strong><br />
เวลา 14.00 น. – ขบวนแห่รถอาหารช้าง เริ่มจากบริเวณหน้าโรงเรียนสิรินธร<br />
เวลา 18.00 น. – การประกวดขบวนรถอาหารช้าง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
เวลา 19.00 น. – การประกวดสาวงามเมืองช้าง เวทีกลางกาชาดสุรินทร์ สนามกีฬาศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
<br />
<strong>วันที่ 18 พฤศจิกายน 2554</strong><br />
เวลา 08.00 น. – ขบวนพาเหรดและแห่ช้างกว่า 300 เชือก เริ่มขบวนจากหน้าสถานีรถไฟจังหวัดสุรินทร์<br />
เวลา 09.00 น. – งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
<br />
<strong>วันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2554</strong><br />
เวลา 19.00 น. – งานแสดงแสง สี เสียง ตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ณ บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์<br />
<br />
<strong>วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2554</strong><br />
เวลา 09.00 น. - การแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ณ สนามแสดงช้าง อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
<br />
<strong>วันที่ 20 พฤศจิกายน 2554</strong><br />
เวลา 05.00 น. - งานวิ่ง “เมืองช้าง” มินิ-ฮาร์ฟมาราธอน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
<br />
<span style="color: #0066cc;"><strong>[ดาวน์โหลด] </strong><a href="http://www.surin.go.th/Ticket%20Booking%20Form%2054.pdf"><strong>แบบฟอร์มการจองบัตรชมการแสดงช้างสุรินทร์</strong></a></span><br />
<br />
<br />
<strong><span style="font-size: large;">สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่</span></strong><br />
<br />
<strong>สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ </strong>โทร 044 512 039<br />
<strong>องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ </strong>โทร. 044511 975<br />
<strong>เทศบาลตำบลระแงง อ.ศีขรภูมิ </strong>โทร. 044 561 243, 044 560 088<br />
<strong>มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ </strong>โทร.080 464 7333<br />
<strong>ททท. สำนักงานสุรินทร์ </strong>โทร. 044 514 447-8Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-73348856853522557812011-10-17T18:03:00.002+07:002011-10-17T18:03:55.402+07:00สุขภาพจิตดี..มีได้ด้วยพอเพียง<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoMulMs3JyXwbgtOZ7FCTSipejmOgOtieGT4loMqQVCo8JJsZHcBwdvHqreEQT66pMQR2ufjvXrqs86VVhWiJ2JPaIPFnyMflyyRmc0tYglHWyuzKiWjYagBrJvRYKH62ywCJeoOfRDPOr/s1600/g1.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoMulMs3JyXwbgtOZ7FCTSipejmOgOtieGT4loMqQVCo8JJsZHcBwdvHqreEQT66pMQR2ufjvXrqs86VVhWiJ2JPaIPFnyMflyyRmc0tYglHWyuzKiWjYagBrJvRYKH62ywCJeoOfRDPOr/s320/g1.png" width="318" /></a>การมีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นมากสำหรับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งการมีสุขภาพดีไม่ใช่เฉพาะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเท่านั้น แต่การมีสุขภาพจิตที่ดีก็มีความสำคัญมาก เช่นเดียวกัน การมีสุขภาพจิตที่ดีจะทำให้เราสามารถควบคุมอารมณ์ คิดแก้ปัญหาและตัดสินใจได้อย่างดี อีกทั้งสุขภาพจิตยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายได้ เพราะเมื่อสุขภาพจิตเสื่อม สุขภาพกายก็จะพลอยทรุดโทรมไปด้วยดังคำกล่าวที่ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” จากผลลัพธ์ต่างๆ ที่เกิดจากสุขภาพจิตทำให้หลายฝ่ายเริ่มให้ความสนใจเรื่องของจิตใจมากขึ้น ดังนั้นสหพันธ์สุขภาพจิตโลกจึงได้กำหนดให้วันที่ ๑๐ ตุลาคม ของทุกปีเป็น “วันสุขภาพจิตโลก” เพื่อให้คนในสังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญต่อปัญหาด้านสุขภาพจิต
<br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjR1KD5zDJDTSMYFu8ule1koh23remeN2WWPgftZ3A34iKKnATAfz4n1do-p4IpcK8NopqGRTfkYLwmpIFDzsZ7v7relVrH8a1EEk4ZAq9knf5KzWkFgSqKZ2gHnebwQQ0GYqCSXfUTvKfK/s1600/g2.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="288" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjR1KD5zDJDTSMYFu8ule1koh23remeN2WWPgftZ3A34iKKnATAfz4n1do-p4IpcK8NopqGRTfkYLwmpIFDzsZ7v7relVrH8a1EEk4ZAq9knf5KzWkFgSqKZ2gHnebwQQ0GYqCSXfUTvKfK/s320/g2.png" width="320" /></a><br />
ในหลายปีที่ผ่านมาแม้ประเทศไทยจะประสบกับปัญหาต่างๆ เช่นปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และปัญหาเรื่องปากท้อง เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตทั้งสิ้น แต่จากการสำรวจสุขภาพจิตคนไทยของสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยใช้ข้อถามสุขภาพจิตคนไทยฉบับสั้น 15 ข้อของกรมสุขภาพจิตที่พัฒนาจากข้อถามฉบับสมบูรณ์ที่กำหนดว่าบุคคลทั่วไปควรมีคะแนนสุขภาพจิตระหว่าง 27.01-34 คะแนน ผลสำรวจพบว่า ในปี 2552 คนไทยมีสุขภาพจิตโดยเฉลี่ยดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2551 ที่ได้ 31.80 คะแนน และในปี 2552 ได้ 32.73 คะแนน จากคะแนนเต็ม 45 คะแนน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้สำหรับคนทั่วไป และเป็นที่น่ายินดีที่มีผู้มีสุขภาพจิตสูงกว่าคนทั่วไปเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 (จากร้อยละ 27.7 ในปี 2551 เป็นร้อยละ 37.7 ในปี 2552)
<br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjF9pI2UN4PFQqEaNv0IpumiFRuTX6hoAqtJ8I6ngLNewH7Q7GnhHDSSxyoY_I8JFwapspQlQXhV6gPnwn4k1y2K_4wDGpHHfKcozmEA_nxPPZIuENlitk8-Y3O74tZok7raPySxtra_3Rc/s1600/g3.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="310" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjF9pI2UN4PFQqEaNv0IpumiFRuTX6hoAqtJ8I6ngLNewH7Q7GnhHDSSxyoY_I8JFwapspQlQXhV6gPnwn4k1y2K_4wDGpHHfKcozmEA_nxPPZIuENlitk8-Y3O74tZok7raPySxtra_3Rc/s320/g3.png" width="320" /></a>นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่าการศึกษาและรายได้มีความสัมพันธ์กับสุขภาพจิตด้วย โดยพบว่าผู้ที่มีการศึกษาสูงและรายได้มากๆ จะมีสุขภาพจิตดีกว่าผู้ที่มีการศึกษาและรายได้ต่ำกว่า แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วจะพบว่าถึงแม้ว่าผู้ที่มีการศึกษาต่ำจะมีคะแนนสุขภาพจิตน้อยที่สุดแต่เมื่อเทียบกับปี 2551 แล้วคะแนนสุขภาพจิตดีขึ้น (เพิ่มขึ้นจาก 30.29 คะแนนในปี 2551 เป็น 32.63 คะแนน ในปี 2552) นั่นแสดงว่านโยบาย และความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่เน้นประชาชนรากหญ้ามีผลให้สุขภาพจิตคนกลุ่มนี้ดีขึ้นได้ รายได้ก็เช่นเดียวกันแต่อาจจะไม่เสมอไปที่คนที่มีรายได้สูงจะมีสุขภาพจิตดีกว่าผู้ที่มีรายได้ต่ำ เพราะอาจจะมีปัจจัยอื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย เช่น ความมั่นคงในชีวิต และความสบายใจในการใช้จ่าย
เป็นต้น
<br />
<br />
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของประชาชนรากหญ้าคงหนีไม่พ้นเรื่องปัญหาหนี้สินซึ่งจากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พบว่า ในปี 2552 คนไทยมีหนี้สิ้นเฉลี่ย 134,699 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว (ปี 2543 ครัวเรือนมีหนี้สิ้นเฉลี่ย 68,405 บาท) และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาล และตัวประชาชนเองที่ต้องหาวิธีแก้ปัญหานี้ให้ได้
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbOCyoBoIse-0IT4HGhOFy-DG3fnHiF49CifKs_82pOQeTU9s0fxvyS-4lH0lQ2SXJEtg1QljcekuWNSInn7jJrFoJvcETAzqR0DDggaGNR6yscg9As3lFGBk_f7D4TWkXvMBT7PkYxJZL/s1600/g4.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="301" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgbOCyoBoIse-0IT4HGhOFy-DG3fnHiF49CifKs_82pOQeTU9s0fxvyS-4lH0lQ2SXJEtg1QljcekuWNSInn7jJrFoJvcETAzqR0DDggaGNR6yscg9As3lFGBk_f7D4TWkXvMBT7PkYxJZL/s320/g4.png" width="320" /></a></div>
การที่จะมีสุขภาพจิตดีนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนที่พร้อมทุกอย่างเสมอไป แม้ว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมืองในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของประชาชน แต่ทุกคนสามารถที่จะมีสุขภาพจิตที่ดีได้ ถ้ารู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และดำเนินชีวิตอย่างมีสติโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะมีสุขภาพจิตดี และสามารถดำเนินชีวิตภายใต้สถานการณ์ที่กดดันได้อย่างมีความสุข<br />
<br />
<strong>ที่มา:</strong> สำนักสถิติพยากรณ์ สำนักงานสถิติแห่งชาติAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-40758015831215766982011-10-07T11:21:00.000+07:002011-10-07T11:21:37.709+07:00ก.ไอซีที แถลงความก้าวหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.ndwc.go.th/web/images/stories/3.jpg" imageanchor="1" style="clear: right; float: right; margin-bottom: 1em; margin-left: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://www.ndwc.go.th/web/images/stories/3.jpg" width="240" /></a></div>
ก.ไอซีที แถลงความก้าวหน้าการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี<br /><br />นาวา
อากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ได้แถลงความก้าวหน้าในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ
ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ว่า
ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การสื่อสาร เพื่อทำหน้าที่ปฏิบัติและประสานงาน
โดยมีรองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธาน
และมีผู้แทนจาก กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ บริษัท ทีโอที
จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไปรษณีย์ไทย
จำกัด ร่วมเป็นคณะทำงาน และมีผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เป็นเลขานุการ <br /><br />นอกจากนี้ยังได้จัดผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยาและ
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เข้าปฏิบัติงานที่ศูนย์สนับสนุนอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย
และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ณ กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2554
ที่ผ่านมา เพื่อประสานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์
กำหนดข้อสั่งการพร้อมแจ้งเตือนภัยให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทราบ
ตลอดจนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้ารายงานตัวต่อผู้ว่าราชการ
จังหวัดเพื่อปฏิบัติงานในส่วนการประมวลข้อมูลสถานการณ์และการช่วยเหลือ
ประชาชน เพื่อรายงานรัฐบาลผ่าน ศอส. <br /><br />“ในการดำเนินงานของกระทรวงฯ
ได้ดำเนินการในลักษณะบูรณาการแบบ One Stop Service ตามมาตรการ 2P 2R คือ
1.ด้านการเฝ้าระวัง
โดยได้ประสานการปฏิบัติและแลกเปลี่ยนข้อมูลการเตือนภัยกับหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้องตลอดเวลา เพื่อเป็นข้อมูลในการแจ้งเตือน
รวมทั้งได้เฝ้าระวังสภาวะอากาศและประเมินข้อมูลที่อาจจะเกิดผลกระทบต่อชีวิต
และทรัพย์สินของประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการเตือนภัยล่วงหน้า
และได้แจ้งข่าวในรูปของประกาศหรือการแจ้งเตือนผ่านหน่วยงานในพื้นที่
ทั้งสื่อมวลชน วิทยุ-โทรทัศน์ รวมถึงข้อความสั้น (SMS) วิทยุสื่อสาร Social
Network , website เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังได้มอบหมายให้ บมจ.ทีโอที
และบมจ.กสทฯ
ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมโครงข่ายและเครือข่ายสื่อสารโทรคมนาคมหลักให้
สามารถรองรับสถานการณ์ได้ ทุกพื้นที่
รวมทั้งวางระบบสื่อสารสำรองในภาวะฉุกเฉิน คือ
ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมเคลื่อนที่ ในพื้นที่เฝ้าระวังเป็นการล่วงหน้า
ตลอดจนได้ติดต่อซักซ้อมการแจ้งเตือนภัยระหว่างศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
กับศูนย์เตือนภัยภาคประชาชน คือ
ประชาชนผู้มีจิตอาสาและกลุ่มวิทยุสมัครเล่นเอาไว้ด้วย<br /><br />2.
ด้านการแจ้งเตือนภัย เมื่อมีความชัดเจนว่าจะเกิดภัยพิบัติ
กรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
จะติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งกระชับความชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะภัยและพื้นที่
พร้อมประเมินสถานการณ์เพื่อการแจ้งเตือนทุก 3 - 6 ชั่วโมง
รวมถึงแจ้งผลการวิเคราะห์ผลกระทบในมิติของความรุนแรงและพื้นที่
ตลอดจนการคาดการณ์เพื่อประโยชน์ ในการบรรเทาและช่วยเหลือ
รวมทั้งวางระบบการสื่อสารสำรองผ่านเครือข่ายประชาชนผู้มีจิตอาสาและวิทยุ
สมัครเล่น
ตามนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อใช้ในพื้นที่วิกฤติที่ไม่สามารถติดต่อ
สื่อสารด้วยเครือข่ายอื่นได้ รวมถึงเฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์ตลอด 24
ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังได้ประสานการบรรเทาภัยและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่การ
ติดต่อระหว่างประชาชนกับหน่วยบรรเทา
สาธารณภัยมีปัญหาหรือไม่สามารถติดต่อกันได้
โดยการเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข 192 <br /><br />3.
ด้านการฟื้นฟู สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
บมจ.ทีโอที บมจ.กสทฯ
ได้สนับสนุนบุคลากรและเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในการปรับปรุงและซ่อมแซม
อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
ให้แก่หน่วยงานราชการและประชาชน ส่วนบจ.ไปรษณีย์ไทย
ได้สนับสนุนการขนส่งสิ่งของในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตลอดช่วงเวลา
การบรรเทาและการฟื้นฟู นอกจากนั้นกระทรวงฯ
ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานการบรรเทาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่การ
ติดต่อมีปัญหา
หรือไม่สามารถติดต่อระหว่างประชาชนกับหน่วยบรรเทาสาธารณภัยได้ <br /><br />4.
ด้านการแก้ปัญหา กระทรวงฯ และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
ได้กำกับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่างๆ เป็น 3 ลักษณะ คือ พื้นที่ประสบภัย
ได้แก่ จ.อุตรดิตถ์ ได้กำกับดูแลการติดต่อสื่อสารโดยให้ บมจ.ทีโอที
เข้าพื้นที่และวางระบบสื่อสารโทรศัพท์ทางสายเพื่อการติดต่อระหว่างเจ้า
หน้าที่และประชาชนในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งพื้นที่ที่ยังเข้าไม่ได้
คือ บ้านต้นขนุน ตชด ๓๑๒ น้ำไผ่ น้ำปาด ห้วยคอม
พร้อมทั้งวางระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายและ e-Conference ที่ อ.น้ำปาด
จ.อุตรดิตถ์
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้บางพื้นที่ที่สามารถดำเนินการ
ได้ ส่วนศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
ให้รับหน้าที่ติดต่อกับประชาชนและประสานงานกับหน่วยช่วยเหลือผ่านหมายเลข
192
รวมทั้งติดตามสถานการณ์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือ
ประชาชน<br /><br />พื้นที่เสี่ยงภัย คือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร
และปริมณฑล ได้ติดตามสถานการณ์น้ำฝนและน้ำในแม่น้ำ ลำห้วย
เพื่อแจ้งพื้นที่ให้แจ้งเตือนภัยทางเครือข่าย “หอกระจายข่าว”
และทางสัญญาณเตือนภัย โดยประสานงานตรงกับผู้รับผิดชอบในการบริหารสถานการณ์
ซึ่งขณะนี้น้ำ ได้เอ่อล้นฝั่ง บางพื้นที่ได้ไหลเข้าท่วมแล้ว
และฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ส่วนบางพื้นที่ได้ปักธงแดง
แสดงสถานการณ์อันตรายแล้ว<br /><br />และ พื้นที่เฝ้าระวัง คือ
ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน และภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
ได้ติดตามสภาวะอากาศและปริมาณฝนซึ่งกำลังตกหนักในพื้นที่ จ.ระนอง จ.พังงา
จ.สตูล และภาคใต้ตอนล่าง เพื่อประสานหน่วยงานในพื้นที่ให้เฝ้าระวัง
รวมทั้งให้ผู้มีจิตอาสารีบรายงานสถานการณ์ตามช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง
และประสานงานบมจ.ทีโอที
เตรียมเข้าพื้นที่เสี่ยงเพื่อเตรียมความพร้อมของเครือข่ายการติดต่อสื่อสาร
สำรอง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-3087533222353306522011-09-29T11:35:00.001+07:002011-09-29T11:38:38.579+07:00จังหวัดสุรินทร์ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 อำเภอ<span class="Apple-style-span" style="background-color: white; font-family: tahoma, sans-serif; font-size: 16px;"></span><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjrb9B8py8z48Gx5FgXcv_YeOY-bR4bPP7fYyVG-Mn9LpbJBh8UIR-eC_AJxyuzGVy_qXgOQIbdKGMRGdzqv1qqNgeC22qLzdlItzc9EacAw82B4GXIO5Z319wwPNvp3cAhhctySNLexI_/s1600/surin_mascot.png" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="166" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhjrb9B8py8z48Gx5FgXcv_YeOY-bR4bPP7fYyVG-Mn9LpbJBh8UIR-eC_AJxyuzGVy_qXgOQIbdKGMRGdzqv1qqNgeC22qLzdlItzc9EacAw82B4GXIO5Z319wwPNvp3cAhhctySNLexI_/s200/surin_mascot.png" width="200" /></a></div>
จังหวัดสุรินทร์ประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สำโรงทาบ ท่าตูม ชุมพลบุรี และศรีณรงค์ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5,305 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 11,600 ไร่<br />
นายอำนวย จันทรัฐ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและฝายชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดสุรินทร์ทั้ง 18 แห่ง ปริมาณน้ำวัดได้ 134.846 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือประมาณ ร้อยละ 92.95 ของความจุทั้งหมด 145.079 ล้าน ลบ.ม. โดยห้วยลำพอก อำเภอศีขรภูมิ ปริมาณน้ำวัดได้ 10.246 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำท่วมขังในบริเวณที่ลุ่มติดห้วยลำพอก อ่างเก็บน้ำห้วยแก้ว อำเภอรัตนบุรี มีน้ำท่วมในนาข้าวบริเวณที่ลุ่มต่ำ ห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ มีน้ำท่วมขังบริเวณนาข้าวที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ตำบลสำโรงทาบและตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ ห้วยเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ มีน้ำท่วมขังบริเวณนาข้าวที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ ระดับน้ำแม่น้ำมูลขณะนี้ระดับน้ำล้นตลิ่งและเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรในบริเวณที่ลุ่มต่ำขยายเป็นวงกว้าง หากยังมีฝนในพื้นที่ประกอบกับการรับน้ำมาจากต้นน้ำจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ซึ่งจะไหลมาสมทบกันที่แม่น้ำมูล คาดว่าน้ำอาจจะเอ่อท่วมเส้นทางการสัญจรและบ้านเรือนของประชาชนสร้างความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตและทรัพย์สิน ในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี สำหรับลำน้ำชีน้อยมีน้ำท่วมขังนาข้าวในบริเวณที่ลุ่มต่ำ คาดว่า หากยังมีฝนตกในพื้นที่ประกอบกับการรับน้ำมาจากที่อื่นจะทำให้มีปริมาณน้ำมาก และเอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวขยายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลคอโค ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์<br />
สำหรับอำเภอที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 5 อำเภอ 16 ตำบล 89 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ สำโรงทาบ ท่าตูม ชุมพลบุรี และศรีณรงค์ ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5,305 ครัวเรือน นาข้าวเสียหาย 11,600 ไร่ ถนนเสียหาย 12 สาย ส่วนความเสียหายด้านการเกษตรนั้นจากการตรวจสอบพื้นที่ประสบอุทกภัย คาดว่า นาข้าวจะเสียหายอีกประมาณ 10,286 ไร่ และมันสำปะหลังเสียหายประมาณ 22,956 ไร่ ทั้งนี้ อำเภอท่าตูม มีพื้นที่ที่คาดว่าเสียหาย 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน นาข้าวเสียหายประมาณ 4,581 ไร่ อำเภอสังขะพื้นที่ที่คาดว่าเสียหาย 6 ตำบล 34 หมู่บ้าน นาข้าวเสียหายประมาณ 5,253 ไร่ อำเภอสำโรงทาบ พื้นที่ที่คาดว่าเสียหาย 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน นาข้าวเสียหายประมาณ 455 ไร่ อำเภอกาบเชิงพื้นที่ที่คาดว่าเสียหาย 6 ตำบล 78 หมู่บ้าน ไร่มันสำปะหลังเสียหายประมาณ 22,956 ไร่
หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ได้รับรายงานสถานการณ์อุทกภัยเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2554 ว่าอำเภอชุมพลบุรีขณะนี้ระดับน้ำแม่น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งและน้ำไหลเอ่อมาจากลำพลับพลา เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ตำบลสระขุด เมืองบัว ยะวึก กระเบื้อง ศรีณรงค์ ชุมพลบุรี นาหนองไผ่ และหนองเรือ คาดว่านาข้าว เสียหาย 8,700 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,500 ครัวเรือน และหากว่ายังมีฝนตกในพื้นที่ซึ่งจะทำให้น้ำปริมาณสูงขึ้นมากน้ำอาจจะเอ่อท่วมเส้นทางสัญจรและบ้านเรือนของประชาชน ทั้งนี้ อำเภอชุมพลบุรีได้เตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยจัดเตรียมกำลัง อปพร. จำนวน 500 นาย เรือท้องแบน 22 ลำ กระสอบทราย 4,000 กระสอบ ถุงยังชีพ 1,800 ถุง และอาสาปศุสัตว์ได้จัดเตรียมที่อพยพยสัตว์ไว้ที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
<br />
สำหรับอำเภอท่าตูมมีปริมาณน้ำมากจากภาวะล้นตลิ่งของแม่น้ำมูลและน้ำไหลเอ่อจากลำพลับพลา เอ่อท่วมขังในพื้นที่นาข้าวของตำบลทุ่งกุลา พรมเทพ โพนครก หนองบัว บะ หนองเมธี และท่าตูม และน้ำเริ่มไหลเอ่อท่วมเส้นทางสัญจรแล้ว ส่วนอำเภอ รัตนบุรี น้ำที่เอ่อล้นมาจากระดับน้ำในแม่น้ำมูลล้นตลิ่งทำให้มีปริมาณน้ำมาก เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวบริเวณที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ตำบลทับใหญ่ หนองบัวทอง กุดขาคีม และดอนแรด คาดว่า ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรขยายวงกว้างมากขึ้นAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-76583567423363009112011-09-28T10:56:00.000+07:002011-09-28T10:56:10.915+07:00สสช. ส่งเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลผู้ประสบเหตุอาชญากรรม<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDqjplnSxprC4CB_NWErG2jRIfdzNeTeAGuqE2PJgVZuPemVL7pUaeudXmy8cSAVtGcuIDmNpJeUx7a4EpoZ1pTO0Vapfks2oo8TA_AFlnHO-Fb_DQjgHCz10rL05366VnrCbskeL1zv98/s1600/boss_nso.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgDqjplnSxprC4CB_NWErG2jRIfdzNeTeAGuqE2PJgVZuPemVL7pUaeudXmy8cSAVtGcuIDmNpJeUx7a4EpoZ1pTO0Vapfks2oo8TA_AFlnHO-Fb_DQjgHCz10rL05366VnrCbskeL1zv98/s1600/boss_nso.jpg" /></a></div>
<b>นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์</b> ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกเก็บข้อมูลผู้ประสบอาชญากรรม ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม ๒๕๕๔ พร้อมกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ
<br />
<br />
ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทยมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น มีรูปแบบที่หลากหลายและสลับซับซ้อนมากขึ้น หน่วยงานภาครัฐยังขาดข้อมูลที่จำเป็นในการกำหนดยุทธศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ การสำรวจในครั้งนี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ถูกกระทำในอาชญากรรมพื้นฐานต่างๆ ๔ ประเภท ได้แก่ การถูกกระทำต่อทรัพย์สินของตนเอง/ครอบครัว การถูกกระทำต่อชีวิต/ร่างกาย การถูกกระทำทางเพศ และการถูกกระทำเกี่ยวกับข้อมูล/เอกสารส่วนตัว เพื่อให้ภาครัฐและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมได้มีข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจ ปรับปรุงนโยบาย และติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปของผู้ถูกกระทำเวลา สถานที่ ความเสียหาย และผลกระทบจากการถูกกระทำ การรายงานเหตุต่อเจ้าหน้าที่ การติดต่อหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานอื่นๆ รวมทั้งลักษณะของผู้กระทำผิด เช่น การรู้จักกับผู้ถูกกระทำ และการเป็นสมาชิกแก๊งหรือกลุ่มอันธพาล เป็นต้น สำนักงานสถิติแห่งชาติขอความร่วมมือผู้ตอบสัมภาษณ์โปรดให้ข้อมูลที่เป็นจริงโดยข้อมูลที่ได้รับจะถูกเก็บเป็นความลับ และจะนำเสนอผลสำรวจในภาพรวมเท่านั้น นายวิบูลย์ทัต กล่าวAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-11024681223343483682011-09-27T20:34:00.002+07:002011-09-27T20:52:00.518+07:00ก.ไอซีที อัพเกรดโปรแกรมเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตไม่เหมาะสม<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.mict.go.th/phpThumb.php?w=195&h=&src=images/article/news5009/n20110927_5009.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://www.mict.go.th/phpThumb.php?w=195&h=&src=images/article/news5009/n20110927_5009.jpg" /></a></div>
<div align="justify">
<span style="font-family: Verdana; font-size: 12pt;">นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึง
โครงการจัดการดูแลและเฝ้าระวังภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสม
ว่า หลังจากที่กระทรวงไอซีที ได้ดำเนินโครงการจัดทำโปรแกรมเฮ้าส์คีปเปอร์
เพื่อป้องกันภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์
และเกมคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม พบว่าได้รับการตอบรับจากหน่วยงาน สถานศึกษา
คณาจารย์ พ่อแม่ ผู้ปกครอง และประชาชนที่สนใจเป็นจำนวนมาก
โดยมีผู้แสดงความจำนงขอโปรแกรมไปใช้งานมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
รวมทั้งยังมีการเรียกร้องขอให้มีการดูแลและปรับปรุงโปรแกรมให้ทันสมัย
อยู่เสมอ เพื่อที่ผู้ปกครองและโรงเรียนต่างๆ
จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการป้องกันสื่อออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมและดูแลการใช้งานคอมพิวเตอร์ของเยาวชน</span></div>
<div align="justify">
<span style="font-family: Verdana; font-size: 12pt;">
“กระทรวงฯ เห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวมีประโยชน์ต่อสังคมและประชาชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรงเรียน สถานศึกษา และเยาวชนที่เป็นผู้ใช้คอมพิวเตอร์
จึงได้จัดทำโครงการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพ จัดการดูแลระบบ
และเผยแพร่แนวทางป้องกันภัยแฝงจากการใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสมสำหรับ
ประชาชนทั่วประเทศขึ้น
โดยมุ่งหวังให้เกิดการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้
กระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและสร้างภูมิคุ้มกันภัยที่แฝงมากับการใช้เครื่อง
คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
พร้อมทั้งขยายผลการดำเนินการให้ประชาชนโดยทั่วไปมีโอกาสได้เข้าถึงมากขึ้น
ทั้งนี้
เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องมือสำหรับใช้ป้องกันเยาวชนและตนเองจากเว็บไซต์ที่
ไม่เหมาะสมต่างๆ รวมถึงมีแหล่งเครื่องมือ
และสามารถเข้าถึงช่องทางการดาวน์โหลดเครื่องมือป้องกันตนเองและบุตรหลานจาก
ภัยแฝงทางอินเทอร์เน็ตได้
เพื่อให้เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของประเทศเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพสามารถสร้าง
สรรค์สังคมที่ดีได้ต่อไป” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว</span></div>
<div align="justify">
<span style="font-family: Verdana; font-size: 12pt;">
การจัดทำโครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนการดูแลเฝ้า
ระวังให้เหมาะกับการใช้งาน และมีฐานข้อมูลที่ทันสมัย โดยกระทรวงฯ
ได้ปรับปรุงโปรแกรมเฮ้าส์คีปเปอร์
เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานมากขึ้น
พร้อมเพิ่มสมรรถนะของกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินงานให้ทันสมัย
และเหมาะสมกับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (32bit) ได้แก่ XP,
Vista และ Windows 7 เป็นต้น
พร้อมกันนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับบราวเซอร์ต่างๆ ในปัจจุบัน เช่น IE,
Firefox และ Chrome ได้
รวมทั้งสามารถปรับปรุงข้อมูลรายการเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมเพิ่มเติมได้ด้วย</span></div>
<div align="justify">
<span style="font-family: Verdana; font-size: 12pt;">
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กระทรวงฯ
ได้จัดทำโปรแกรมดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายสำหรับการใช้งานจำนวน 10,000 ชุด
และจะมีการจัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้สู่ประชาชน
รวมทั้งกระตุ้นให้รู้ถึงภัยแฝงและการป้องกันตนจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือ
อินเทอร์เน็ตที่ไม่เหมาะสมสำหรับประชาชนและสถานศึกษาทั่วประเทศ
โดยหวังว่าโครงการฯ นี้
จะช่วยให้เกิดเครือข่ายป้องกันเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมของภาคประชาชนและภาครัฐ
ในรูปแบบสมัครใจ
ซึ่งจะเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด” </span><br />
<span style="font-family: Verdana; font-size: 12pt;"><br /></span><br />
<span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-family: Verdana; font-size: large;"><b>คุณสมบัติโปรแกรม</b></span><br />
<span class="Apple-style-span" style="font-family: Verdana;"></span><br />
<ul><span class="Apple-style-span" style="font-family: Verdana;">
<li>ป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ผู้ดูแลสามารถกำหนดเพิ่มได้เอง โดยสามารถกำหนด
รูปแบบให้เหมาะสม สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แต่ละคนได้</li>
<li>กำหนดเวลาใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน โดยสามารถระบุตารางเวลา แยกเป็นตารางเวลาใช้งานอินเทอร์เน็ต และตารางเวลาการใช้งานโปรแกรม</li>
<li>กำหนดให้สามารถบันทึกประวัติการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน
เก็บไว้ได้
และยังสามารถกำหนดให้ส่งประวัติการใช้งานดังกล่าวไปยังอีเมลที่ระบุไว้ได้
อีกด้วย</li>
<li>ป้องกันการเข้าไปแก้ไขข้อมูลที่ไม่ควรถูกเปิดเผย เช่น
ประวัติการใช้งานข้อมูลเว็บไซต์หรือโปรแกรมที่ถูกจำกัดการใช้งาน
รวมไปถึงป้องกันการถอดถอนโปรแกรม</li>
<li>กำหนดการใช้งานของโปรแกรมต่างๆ โดยสามารถที่จะระบุว่าผู้ใช้แต่ละคนสามารถใช้งานโปรแกรมได้หรือไม่</li>
</span></ul>
</div>
<br />
<h4>
</h4>
<b><span class="Apple-style-span" style="color: blue; font-size: large;">ดาวน์โหลดโปรแกรม</span></b><br />
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" style="width: 100%;">
<tbody>
<tr>
<td bgcolor="#E2EFCB" width="116"><a href="http://www.ictkeeper.com/#"><img border="1px" height="100" id="Image9" name="Image9" src="http://www.ictkeeper.com/images/loadhk2011_100x100.jpg" style="border-bottom-style: dotted; border-left-style: dotted; border-right-style: dotted; border-top-style: dotted;" width="100" /></a></td>
<td bgcolor="#E2EFCB" width="14"></td>
<td bgcolor="#E2EFCB"><strong><a href="http://www.ictkeeper.com/download/2011_Demo_version_of_ICT_House_Keepe.zip">Download โปรแกรมเฮาส์คีปเปอร์ 2011 <br />Beta Version 1.0</a></strong></td></tr>
</tbody></table>
Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-54269394851961631192011-09-18T17:21:00.001+07:002011-09-18T17:23:11.502+07:00กีฬาสถิติสัมพันธ์ครั้งที่ 5<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img233.imageshack.us/img233/1932/37183028.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://img233.imageshack.us/img233/1932/37183028.jpg" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img853.imageshack.us/img853/362/10440998.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="http://img853.imageshack.us/img853/362/10440998.jpg" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img571.imageshack.us/img571/4410/95146983.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="400" src="http://img571.imageshack.us/img571/4410/95146983.jpg" width="400" /></a></div>
<br />
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ <a href="http://goo.gl/wk1SA">http://goo.gl/wk1SA</a>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-7388197508772883672011-09-16T15:26:00.000+07:002011-09-16T15:26:47.462+07:00หนี้1.36แสนต่อครัวเรือน'นอกระบบ'หด<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGnsoxPkpDUFXkoO-nwWOwUvzmcY8NL25vkY1vIJUXJLjHp31OiVKZh-sDwIWUunG9Ddu5YAKR8Z-qVl41jVg9WEB_vF1ypz3K9QidlIegJjJngd0UcJbv2rnvOxVRS2xR7c4fN9l0Zp_U/s1600/nso_logo.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGnsoxPkpDUFXkoO-nwWOwUvzmcY8NL25vkY1vIJUXJLjHp31OiVKZh-sDwIWUunG9Ddu5YAKR8Z-qVl41jVg9WEB_vF1ypz3K9QidlIegJjJngd0UcJbv2rnvOxVRS2xR7c4fN9l0Zp_U/s1600/nso_logo.jpg" /></a></div>
<b>สำนักงานสถิติแห่งชาติ</b>เปิดผลสำรวจครัวเรือน ครึ่งปี 2554 พบ 57% เป็นหนี้ โดยเฉลี่ย 136,562 บาทต่อครัวเรือน แต่ไม่น่าห่วงเพราะส่วนใหญ่เป็นหนี้ในระบบ รายได้ยังสูงกว่าค่าใช้จ่าย
<br />
<br />
รายงานข่าวจาก<b>สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.)</b> เปิดเผยถึงผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนช่วง 6 เดือนแรกปี 2554 ว่า ครัวเรือน 56.9% มีหนี้สิน โดยมีจำนวนหนี้สินเฉลี่ย 136,562 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่ 74.6% เป็นการก่อหนี้เพื่อใช้ในครัวเรือน คือซื้อบ้าน/ที่ดิน 36.4% ใช้ในการอุปโภคบริโภค 36.1% และหนี้เพื่อใช้ในการศึกษา 2.1% ขณะที่หนี้ใช้ทำการเกษตรจะสูงกว่าใช้ทำธุรกิจถึง 4.5% ซึ่งส่วนใหญ่ครัวเรือนจะเป็นหนี้ในระบบ โดยมีครัวเรือนที่มีหนี้ในระบบอย่างเดียว 87.9% และครัวเรือนที่มีหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ 6.1% สำหรับครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบอย่างเดียวมีเพียง 6.0% และพบว่าจำนวนเงินเฉลี่ยที่เป็นหนี้ในระบบสูงกว่านอกระบบถึง 32 เท่า
<br />
<br />
ทั้งนี้ ในส่วนของรายได้ครัวเรือนพบว่า ครัวเรือนทั่วประ เทศมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 23,544 บาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากการทำงาน 71.9% จากการทำธุรกิจ 20.4% และจากการทำการเกษตร 12.8% ส่วนค่าใช้จ่ายมีเฉลี่ยเดือนละ 17,861 บาท โดยค่าใช้จ่าย 32.8% เป็นค่าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในจำนวนนี้มีค่าเครื่องดื่มที่เป็นแอลกอฮอล์ 0.6% รองลงมาเป็นค่าที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ภายในบ้าน 20.8% ใช้เกี่ยวกับการเดินทางและยานพาหนะ 19.1% ใช้ส่วนบุคคล/เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 6.5% ในการสื่อสาร 3.1% เป็นต้น
<br />
<br />
เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้ ค่าใช้จ่าย และหนี้สินของครัวเรือนทั่วประเทศ ปี 2552-54 พบว่าเพิ่มขึ้น แต่มีอัตราการเพิ่มที่แตกต่างกัน โดยรายได้มีอัตราการเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าใช้จ่าย 6.1% และ 5.0% ต่อปี ทำให้สัดส่วนของค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงจาก 77.5% ในปี 2552 เป็น 75.9% ในปี 2554 สำหรับหนี้ของครัวเรือน พบว่าครัวเรือนที่เป็นหนี้มีจำนวนลดลง 3.3% แต่จำนวนเงินที่เป็นหนี้เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนความเหลื่อมล้ำของรายได้มีแนวโน้มลดลง โดยกลุ่มที่มีรายได้สูงสุดลดลง 0.1% ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำสุดมีส่วนแบ่งของรายได้เพิ่มขึ้น 0.5%Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-16968504269447510262011-09-07T17:15:00.001+07:002011-09-07T17:15:33.860+07:00มหกรรมข้าวหอมมะลิไทย<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img171.imageshack.us/img171/2378/554000012041901.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="215" src="http://img171.imageshack.us/img171/2378/554000012041901.jpg" width="320" /></a></div>
<strong>กระทรวงพาณิชย์ ร่วม จ.สุรินทร์ กำหนดจัดงาน
“มหกรรมข้าวหอมมะลิไทย” 9-10 ก.ย.นี้ พร้อมเชิญเอกอัครราชทูต 31 ประเทศ
พร้อมผู้นำเข้า-ส่งออกข้าวหอมมะลิตลาดต่างประเทศ
และผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศมาร่วมงานอย่างยิ่งใหญ่ นำร่องครั้งแรกที่
จ.สุรินทร์</strong><br />
<br /> นายเสริม ไชยณรงค์
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “
มหกรรมข้าวหอมมะลิไทย E-san Thai Hom Mali Rice Convention : Surin ”
มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-10 ก.ย. 2554 นี้ ณ โรงแรมทองธารินทร์
อ.เมือง จ.สุรินทร์<br />
<br />
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จ.สุรินทร์
ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดงานมหกรรมข้าวหอมมะลิไทย ไทย E-san Thai Hom
Mali Rice Convention : Surin
ขึ้นเพื่อเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการตลาดข้าวหอมมะลิไทย
ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าภายในประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปี 2554
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ด้านคุณภาพข้าวและ
มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย และเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดข้าวหอมมะลิไทย
โดยได้เชิญเอกอัครราชทูตประเทศ ที่นำเข้าข้าวหอมมะลิไทย จำนวน 31 ประเทศ ,
ผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิในต่างประเทศ , ผู้ส่งออกข้าวไปต่างประเทศ
และผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศมาร่วมงานด้วย<br />
<br />
ในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
การแสดงและจำหน่ายข้าวหอมะลิของทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20
จังหวัด และอีก 3 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา
นอกจากนั้นยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ , การแสดงนิทรรศการ , การแสดง แสง สี
เสียง , การจัดเยี่ยมชมการเพาะปลูกในแปลงนา
และการแปรรูปข้าวหอมมะลิที่โรงสีข้าว
รวมทั้งการจัดเสวนาแนวทางการพัฒนาการผลิตและการตลาดข้าวหอมมะลิไทย ในหัวข้อ
“ข้าวหอมมะลิไทยก้าวอย่างไรให้ยั่งยืน” เป็นต้น
ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานมหกรรมข้าวหอมมะลิไทยนำร่องในระดับประเทศขึ้นครั้ง
แรกที่ จ.สุรินทร์Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-54771977957484165662011-09-03T13:55:00.001+07:002011-09-03T14:03:27.453+07:00งานผ้าไหมนครชัยบุรินทร์สืบสานตำนานไหมอีสานใต้<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://img692.imageshack.us/img692/872/dscf71355.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="239" src="http://img692.imageshack.us/img692/872/dscf71355.jpg" width="320" /></a></div>
<b>จังหวัดสุรินทร์ เชิญเที่ยวงานผ้าไหมนครชัยบุรินทร์สืบสานตำนานไหมอีสานใต้ 7 – 11 กันยายน นี้ ณ บริเวณลานจอดรถ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์</b><br />
<br />
นายกสิณ นวลโคกสูง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดการจัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหมระดับภูมิภาคอาเซียน “ASEAN Silk Heritage” ภายใต้ชื่องาน “ผ้าไหมนครชัยบุรินทร์ สืบสานตำนานไหมอีสานใต้” ระหว่างวันที่ 7 – 11 กันยายน 2554 ณ บริเวณลานจอดรถ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ (สวนใหม่ อบจ.) เพื่อยกระดับการพัฒนาศักยภาพทางการตลาดและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไหมในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนากระบวนการผลิตผ้าไหมให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าไหมที่สำคัญในประเทศต่อไป
พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในงานดังกล่าว กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการไหมในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ คือ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 มี 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ได้นำผลิตภัณฑ์จากไหมร่วมจัดแสดงและจำหน่วยกว่า 100 บูธ เป็นแบบบูธติดแอร์ ภายในบริเวณจัดงาน โดยมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ การจัดนิทรรศการแสดงถึงวัฒนธรรมไหมสุรินทร์ ผ้าไหมในราชสำนัก ผ้าไหมชาติพันธุ์สุรินทร์(เขมร,ลาว,กูย) ผ้าไหมกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ วิวัฒนาการไหม และการส่งเสริมภูมิปัญญาผ้าไหมไทย การจัดแสดงวิวัฒนาการไหม และการส่งเสริมภูมิปัญญาผ้าไหมไทยในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ การจัดบูธแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไหมของกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ และบูธแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ประเภทอื่นที่มีชื่อเสียง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-4364620218608551118.post-51288696886066924502011-07-28T19:14:00.001+07:002011-07-28T19:14:31.867+07:00ปชช.มีความรู้โครงการชุมชนพอเพียง-แนะรัฐเน้น ศก.พอเพียง<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGnsoxPkpDUFXkoO-nwWOwUvzmcY8NL25vkY1vIJUXJLjHp31OiVKZh-sDwIWUunG9Ddu5YAKR8Z-qVl41jVg9WEB_vF1ypz3K9QidlIegJjJngd0UcJbv2rnvOxVRS2xR7c4fN9l0Zp_U/s1600/nso_logo.jpg" imageanchor="1" style="clear: left; float: left; margin-bottom: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGnsoxPkpDUFXkoO-nwWOwUvzmcY8NL25vkY1vIJUXJLjHp31OiVKZh-sDwIWUunG9Ddu5YAKR8Z-qVl41jVg9WEB_vF1ypz3K9QidlIegJjJngd0UcJbv2rnvOxVRS2xR7c4fN9l0Zp_U/s1600/nso_logo.jpg" /></a></div>
<b>นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ</b>
เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง
พ.ศ.2554 ที่ดำเนินการโดยสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน
สำนักงานสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วประเทศ ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 78
ทราบเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง จากสื่อโทรทัศน์มากที่สุด
และไม่ทราบข้อมูล ร้อยละ 22 โดยประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทราบเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง มากที่สุดถึงร้อยละ 83.1
รองลงมาเป็นภาคเหนือ ภาคใต้ กรุงเทพมหานคร และภาคกลาง ตามลำดับ<br />
ขณะที่การใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต พบว่า
ประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ประโยชน์จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มาปรับใช้สูงที่สุดในประเทศ ร้อยละ 83.7 และกรุงเทพมหานคร
มีการใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงน้อยที่สุด<br />
ส่วนโครงการที่ประชาชนคัดเลือกเป็นโครงการชุมชนพอเพียงในหมู่บ้าน 3
อันดับแรกคือ การเกษตร การส่งเสริมอาชีพ รายได้ และการสาธารณูปโภค
เนื่องจากเห็นว่าให้ประโยชน์ด้านการสร้างงาน สร้างอาชีพมากที่สุด รองลงมา
ช่วยให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น
และสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้<br />
นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้ภาครัฐดำเนินโครงการชุมชนพอเพียง
และนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ทั่ว
ถึงAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/05263551771871450591noreply@blogger.com0