โครงการถวายพระพรออนไลน์เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยได้ลงนามถวายพระพรออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ www.welovekingonline.com

ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราว

ผลการคัดเลือกบุคคลเป็นลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติงานโครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555

โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำสำมะโนธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการ และสำมะโน อุตสาหกรรมทุก 10 ปี ตามข้อเสนอแนะขององค์การสหประชาชาติ เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญทางด้านธุรกิจทางการค้า ธุรกิจทางการบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตมาอย่างต่อเนื่อง

24 มีนาคม 2553

งาน แสดง แสงสีเสียง ปราสาทภูมิโปน อ. สังขะ



านประเพณี สืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน ครั้งที่ 11 วันที่ 9-10 เมษายน 2553 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์

    จังหวัดสุรินทร์โดยอำเภอสังขะ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอสังขะ และองค์การบริหารส่วนตำบลดม จัดงาน “ประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน” ครั้งที่ 11 ขึ้นในวันที่ 9-10 เมษายน 2553 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน ตำบลดม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งโบราณสถาน “ปราสาทภูมิโปน” ซึ่งเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่ หลาย และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป

     นางสาวบุณยานุช วรรณยิ่ง ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า ปราสาทภูมิโปน เป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 ศิลปะแบบไพรเกมร ประกอบด้วยโบราณสถาน 4 หลัง คือ ปราสาทอิฐหลังที่ 1 อยู่ทางด้านเหนือสุด มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมไม่ย่อมุม เหลือเพียงฐานกรอบประตูทางเข้า และผนังบางส่วน ปราสาทอิฐหลังที่ 2 อยู่ต่อจากปราสาทหินหลังแรกมาทางใต้

     ปัจจุบันเหลือเพียงฐานและกรอบประตูทรายปราสาทอิฐหลังที่ 3 หรือปรางค์ประธานเป็นปราสาทหลังใหญ่ก่อด้วยอิฐไม่สอปูน แผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่ย่อมุม มีบันไดและประตูทางเข้าทางทิศตะวันออก อีกสามด้านเป็นประตูหลอก เสาประดับ กรอบประตู และทับหลังทำด้วยหินทราย ใต้หน้าบันเหนือทับหลังขึ้นไปเป็นลายรูปใบไม้ม้วน รูปแบบและเทคนิคการก่อสร้าง เทียบได้กับปราสาทขอมสมัยก่อนพระนครร่วมสมัยกับปราสาทหลังที่ 1 ได้พบจารึกเป็นภาษาสันสกฤตด้วย อักษรปัสสวะ

     ซึ่งเคยใช้เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-13 ซึ่งสอดคล้องกับอายุของรูปแบบศิลปะของปราสาท นับเป็นปราสาทแบบศิลปะเขมรที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และปราสาทอิฐหลังที่ 4 อยู่ต่อจากปราสาทประธานมาทางใต้ ปัจจุบันเหลือเพียงฐานเท่านั้น

     ณ ที่แห่งนี้มีตำนานการก่อสร้างกล่าวถึง กษัตริย์ขอมองค์หนึ่งได้สร้างเมืองลับไว้กลางป่า ชื่อว่าปราสาทภูมิโปน ต่อมาเมื่อเมืองหลวงเกิดความไม่สงบมีข้าศึกมาประชิตเมือง กษัตริย์ขอมจึงส่งพระราชธิดาพร้อมไพร่พลจำนวนหนึ่งมาหลบซ่อนลี้ภัยที่ภูมิ โปนพระราชธิดานั้นมีพระนามว่า พระนางศรีจันทร์ หรือ เนียง ด็อฮฺ ธม

     แต่คนทั่วไปมักเรียกนางว่า พระนางนมใหญ่ แต่ด้วยกิตติศัพท์ความงามของนางเป็นที่โจษขานไปทั่ว จึงเป็นที่หมายปองของพระราชาเมืองต่างๆ ที่ต้องการพระนางมาเป็นพระชายา แต่แล้วก็มีชายหนุ่มเพียง 2 คน คือเจ้าชายโฮลมา แห่งเมืองโฮลมา และนายบุญจันทร์ ทหารคนสนิท ที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดและสร้างสายสัมพันธ์กับพระนาง สุดท้ายแล้วพระนางศรีจันทร์ จะเลือกชายใดเป็นสามี และปริศนาของต้นลำเจียกที่ไม่เคยออกดอก จนเกิดเป็นตำนานปราสาทภูมิโปน “เนียง ด็อฮฺ ธม” ที่เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

     จังหวัดสุรินทร์โดยอำเภอสังขะ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอสังขะ และองค์การบริหารส่วนตำบลดม จึงจัดงาน “ประเพณีสืบสานตำนานปราสาทภูมิโปน” ครั้งที่ 11 ขึ้นในวันที่ 9-10 เมษายน 2553 ณ บริเวณปราสาทภูมิโปน กิจกรรมภายในงานได้แก่ การบวงสรวงองค์ปราสาท การเซ่นไหว้พระภูมิเจ้าที่และสิ่งศักดิสิทธิ์ การประกวดพานบายศรี การแข่งขันชกมวยมรดกโลก การเดินแบบแฟชั่นผ้าไหม การแสดงแสง สี เสียง ตำนานเนียง ด็อฮฺ ธม และมินิคอนเสิร์ต

     พิเศษสุดในปีนี้ ท่านจะได้ชมการแสดงแสง สี เสียง ตำนานเนียง ด็อฮฺ ธม ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาโดยมี ตั๊ก บงกช คงมาลัย รับบทพระนางศรีจันทร์ และออกแบบเครื่องแต่งกายโดย อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ผู้คิดค้นประดิษฐ์ลวดลายผ้าไหมยกทองโบราณ บ้านท่าสว่าง ที่มีลวดลายวิจิตรงดงาม ซึ่งมีการออกแบบจากภาพจำหลักของปราสาทภูมิโปน

     สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :

     - ที่ทำการปกครองอำเภอสังขะ โทร.0 4457 1247
     - องค์การบริหารส่วนตำบลดม โทร.0 4414 8266 www.tambondom.go.th
     - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ โทร.0 4451 4447-8 E-mail : tatsurin@tat.or.th

16 มีนาคม 2553

ไอซีทีเร่งเชื่อมโยงเว็บเซอร์วิสภาครัฐ เพิ่มขีดความสามารถบริการประชาชน

ไอซีทีเร่งกระตุ้นให้เกิดการ บูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ จัดสัมมนาเรื่อง “GIN…มิติใหม่การเชื่อมโยง ข้อมูลภาครัฐ” หวังให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูล ระหว่างระบบข้ามหน่วยงาน และใช้ข้อมูลร่วมกัน

ธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า แนวคิดเรื่องอีกัฟเวอร์นเมนท์ หรือรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งที่กระทรวงไอซีทีอยากผลักดันให้เกิดขึ้นมากที่สุด และรัฐมนตรีที่เข้ามาดูแลกระทรวงไอซีทีทุกรัฐบาล ก็มีแนวคิดเดียวกันว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้แนวคิดเรื่องอีกัฟเวอร์นเมนท์ สามารถนำมาใช้งาน และให้บริการประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทันที และทั่วถึง ดังนั้น ไอซีทีได้จัดสัมมนา เรื่อง “GIN…มิติใหม่การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้หน่วยงานรัฐได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับระบบศูนย์กลาง การเชื่อมโยงเว็บเซอร์วิสภาครัฐ รวมทั้งแนวทางและช่องทางในการใช้งานระบบการติดต่อประสานความร่วมมือระหว่าง หน่วยงาน และการนำไปใช้ในการพัฒนาระบบงานของหน่วยงานตนเองด้วย

“ไอซีทีตั้งมา 7 ปี เข้าสู่ปีที่ 8 ภารกิจหลักของกระทรวงฯก็ได้ดำเนินการตามแผนที่เนคเทควางไว้ ในเรื่องของ 5E คือ อีกัฟเวอร์นเมนท์ อีเอ็ดดูเคชั่น อีคอมเมิร์ช อีเซอร์วิส และอีโซไซตี้ สิ่งที่เราดำเนินการมาตลอดคือ เรื่องอินฟราสตักเตอร์ โดยไอซี ทีพยายามผลักดันให้ ทีโอที และ กสท หน่วยงานในสังกัด ซึ่งมีประสบการณ์การดำเนินงานในเรื่องการเชื่อมโยงโครงข่าย และมีหน่วยงานระดับจังหวัดทุกจังหวัด เป็นผู้ดำเนินงานในโครงการ GIN”

สำหรับการสัมมนาครั้งแรกจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2552 ในหัวข้อ “เส้นทางสู่ความสำเร็จเพื่อ การเชื่อมโยงข้อมูลภาครัฐ” ซึ่งการสัมมนาครั้งนั้น ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกหน่วยงาน และได้นำความต้องการ และแนววิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานมาพัฒนาจัดทำระบบต้นแบบ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน และใช้ข้อมูลร่วมกัน ซึ่งหลังจากกระทรวงไอซีทีได้ดำเนินการพัฒนาระบบศูนย์กลางเชื่อมโยงเว็บเซอร์ วิสภาครัฐ และจัดทำระบบต้นแบบดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้จัดสัมมนาในครั้งที่ 2 นี้

ธานีรัตน์ กล่าวว่า ในการสร้างระบบบูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐนี้ ถือเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่จะนำเอาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการใช้ข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ และเป็นการยกระดับความสามารถในการดำเนินงาน การบริหารจัดการ และการให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ที่ผ่านมา กระทรวงไอซีทีได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร กรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นแบบที่ให้การสนับสนุนและเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันการ พัฒนาระบบศูนย์กลางเชื่อมโยงเว็บเซอร์วิสภาครัฐให้ก้าวหน้า รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐให้ก้าวไปสู่ การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ กระทรวงไอซีทีมีความเชื่อมั่นว่า เครื่องมือที่ได้รับจากโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้นักพัฒนาระบบ สารสนเทศภาครัฐสามารถพัฒนาระบบสารสนเทศของหน่วยงานด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย และนำข้อมูลไปใช้งานร่วมกัน หรือและเปลี่ยนข้อมูลข้ามหน่วยงานภาครัฐด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐานให้ ครอบคลุมทั่วประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในนโยบายของกระทรวงไอซีทีมาตั้งแต่ ปี 2549 โดยปัจจุบันได้พัฒนาให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายภาครัฐทั้งในส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาครวมทั้งสิ้น 1,004 ราย

“ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ได้เริ่มนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปประยุกต์ใช้งานในหน่วยงาน หรือ องค์กรมากขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินการ การบริหารจัดการ หรือการให้บริการประชาชน บางจังหวัด บางหน่วยงานยังกลัวๆ กล้าๆ ภาครัฐต้องยอมรับว่า เราขาดบุคลากรในเรื่องเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังจากหน่วยงานที่ติดตั้งระบบแล้ว ก็จะต้องมีการส่งพนักงานมาฝึกอบรมด้วย”

โครงการต้นแบบเพื่อการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศของ หน่วยงานภาครัฐ

คือโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบข้ามหน่วยงานให้เกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่าง หน่วยงาน โดยหน่วยงานภาครัฐสามารถสร้างโปรแกรมประยุกต์เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูล สารสนเทศได้รวดเร็ว ผ่านเครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network: GIN)

ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำโครงการ

- เป็นศูนย์กลางรวบรวม เผยแพร่เว็บ และแสดงรายละเอียดของเว็บเซอร์วิสภาครัฐ

- เป็นเครื่องมือสนับสนุนการพัฒนาระบบสารสนเทศแบบ Services-Oriented Architecture หรือ SOA โดยพยายาม จัดหาเครื่องมือ เทคนิค และกรรมวิธี ให้นักพัฒนาระบบสารสนเทศภาครัฐสามารถเข้าถึงและใช้งานเว็บเซอร์วิสของหน่วย งานอื่นได้สะดวก

- เป็นชุมชนออนไลน์ ในรูปแบบ Web 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาเว็บเซอร์วิสภาครัฐมาแลกเปลี่ยน ความรู้และแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ระบบ Web Services Helper System (WSHS) เป็นระบบช่วยเหลือนักพัฒนาระบบสารสนเทศภาครัฐที่มุ่งหวังการเชื่อมต่อระบบ โดยเทคโนโลยีเว็บเซอร์วิส ให้สามารถนำเว็บเซอร์วิสที่มีอยู่แล้วมาเผยแพร่ให้หน่วยงานอื่นรับรู้ และสามารถนำเว็บเซอร์วิสของหน่วยงานอื่นที่ได้เผยแพร่ไว้แล้ว มาใช้งานแอพพลิเคชั่นของหน่วยงานตนเองได้ตามภาษาโปรแกรมที่ตนเองถนัด ผ่านทางเครื่องมือ เทคนิค ความรู้ และกรรมวิธี ที่ระบบ WSHS จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อให้สามารถเริ่มต้นใช้งานเว็บเซอร์วิสของหน่วยงานอื่นได้โดยสะดวกรวด เร็ว

ระบบ WSHS ถูกแบ่งย่อยออกเป็น 10 ระบบ โดยแต่ละระบบจะมีขอบเขตการทำงานดังต่อไปนี้

1. ระบบเว็บไซต์เซอร์วิสภาครัฐ เป็นเว็บไซต์ด้านหน้าของระบบ WSHS ที่ อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชม หรือสมาชิก เข้ามาที่เว็บไซต์เพื่อดำเนินการสืบค้นข้อมูล หรือแก้ไขข้อมูลที่จำเป็นได้ด้วยตนเอง

2. ระบบกระบวนการยื่นคำร้องขอใช้เว็บเซอร์วิส ทำหน้าที่ควบคุมกระบวนการอนุมัติคำขอใช้งานเว็บเซอร์วิส หลังจากที่ผู้ลงทะเบียนไว้ และมีผู้มายื่นคำขอใช้

3. ระบบลง ทะเบียนเว็บเซอร์วิส อนุญาตให้สมาชิกสามารถลงทะเบียนเว็บเซอร์วิสของหน่วยงานตนเองทิ้งไว้ พร้อมทั้งยืนยันค่าที่ได้จากการสำรวจ หรือทดสอบการเชื่อมต่อ

4. ระบบสืบค้น เว็บเซอร์วิส อนุญาตให้สมาชิกสืบค้นเว็บเซอร์วิสที่ต้อง การได้โดยใช้คำค้น จากสิ่งที่เกี่ยวข้อง เมื่อค้นพบแล้วสามารถยื่นคำขอเพื่อเข้าใช้งานได้ภายหลัง

5. ระบบสมาชิก ให้ผู้ใช้สมัครเป็นสมาชิกของระบบ โดยต้องผ่านการยืนยันว่าผู้ใช้ และหน่วยงานมีตัวตนอยู่จริง จึงจะอนุญาตให้เป็นสมาชิกได้

6. ระบบจัดการ เนื้อหาเว็บไซต์ มีไว้เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ที่เผยแพร่ไว้ที่หน้า เว็บของระบบ WSHS ได้โดยสะดวก

7. ระบบรายงาน มีไว้เพื่อให้ผู้ดูแลระบบสามารถดูรายงานที่เกี่ยวข้องกับระบบได้

8. ระบบรักษา ความปลอดภัยข้อมูล ทำหน้าที่ควบคุมสิทธิ์การเข้าใช้ การเข้ารหัสข้อมูล XML การถอดรหัสข้อมูล XML การลงลาย เซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และเทคนิคด้านการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ ที่จำเป็น

9. ระบบสร้าง Web Service Proxy ทำหน้าที่สร้าง Web Service Proxy มอบให้กับผู้ขอใช้เว็บเซอร์วิสเพื่อใช้เชื่อมต่อไปที่เว็บเซอร์วิสที่ต้อง การ โดยจะสร้างให้ตรงกับภาษาโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Java, .NET หรือ PHP

10. ระบบควบคุมการเข้าใช้ผ่าน WS Proxy ทำหน้าที่ควบคุมการเข้าใช้ งานเว็บเซอร์วิสที่เรียกใช้มาจาก Web Services Proxy เพื่อช่วยให้สามารถเชื่อมต่อไปที่เว็บเซอร์วิสเป้าหมายที่ต้องการ ได้
ทั้ง 10 ระบบดังกล่าวข้างต้นนี้จะถูกรวมไว้ในระบบ WSHS เพื่อสนับสนุนให้ผู้ใช้งานระบบ Web Services Helper System (WSHS) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...