23 มกราคม 2553

สำมะโนประชากรมีประโยชน์อย่างไร

สำมะโนประชากร คือ การนับผู้คนที่อยู่ในประเทศตามที่อยู่จริงว่ามีอยู่เท่าไร กระจายตัวกันอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างไร เป็นชาย หญิง เด็ก คนทำงาน ผู้สูงอายุ คนพิการเท่าใด ผู้มีการศึกษาระดับไหน มีผู้รู้หน้งสือมากน้อยเพียงใด คนทำงานมีงานทำหรือไม่ คนที่ทำงานประกอบอาชีพอะไรกันบ้าง ย้ายถิ่นที่อยู่กันมากน้อยเพียงใด ที่ใดมีผู้ย้ายถิ่นเข้าหรือออกมาก มีสถานที่อยู่แบบไหน ถูกสุขลักษณะหรือไม่ เป็นต้น


ข้อมูลเกี่ยวกับผู้คนที่อาศัยอยู่จริงในประเทศและพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยในการตัดสินใจของรัฐบาลและผู้บริหารระดับต่าง ๆ ในการวางแผนนโยบายและโครงการต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น ในพื้นที่มีเด็กมาก จำเป็นต้องมีโรงเรียน/ครู และวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคของเด็กแต่ละวัยให้เพียงพอ ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น ต้องมีสาธารณูปโภคให้เพียงพอและเหมาะสมกับจำนวนประชากร

สถิติข้อมูลที่จะได้จากสำมะโนประชากรและเคหะ เป็นสิ่งจำเป็นในการกำหนดประเด็นปัญหา ตั้งเป้าหมาย และติดตามความก้าวหน้าในการทำงาน ข้อมูลสำมะโนประชากรประเมินผลแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (2550-2554) และใช้จัดเตรียมแผนพัฒนาเศรษฐกิจกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (2555-2559)

ถ้าเราไม่มีสถิติข้อมูลที่ถูกต้อง กระบวนการพัฒนาก็จะดำเนินไปอย่างไม่มีทิศทางที่ชัดเจน รัฐบาลและผู้บริหารระดับต่าง ๆ ก็จะตัดสินใจวางนโยบายหรือโครงการโดยอาศัยจินตนาการของตนหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งผลเสียก็จะตกอยู่กับประเทศชาติโดยรวม พูดได้ว่าเมื่อใช้ข้อมูลผิดพลาด ประเทศชาติก็จะเสียหาย

ในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรไทยมีอายุสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชากรจากชนบทเข้ามาอยู่ในเขตเมืองมากขึ้นโดยไม่ได้จดทะเบียนย้ายที่อยู่ ประชากรที่อยู่จริงกับประชากรตามทะเบียนแตกต่างกันอย่างมาก ในขณะเดียวกัน คุณภาพประชากรทุกรุ่นวัยเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขปรับปรุง การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้ ล้วนต้องการสถิติข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องมาใช้ในการวางนโยบายและแผนทั้งสิ้น


ข้อมูลที่จะได้จากสำมะโนประชากรเกี่ยวกับขนาด ส่วนประกอบ การกระจายตัว และลักษณะของประชากร เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ข้อมูลประชากรเหล่านี้ยังเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการและประเมินโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาครอบครัว เคหะที่อยู่อาศัย การศึกษา สุขภาพอนามัย การขนส่งคมนาคม การพัฒนาเมืองและชนบท

นอกจากภาครัฐจะใช้ข้อมูลจากสำมะโนประชากรในการพัฒนาประเทศแล้ว ภาคเอกชนยังสามารถใช้ข้อมูลที่ได้จากสำมะโนประชากรเพื่อตัดสินใจตั้งร้านค้า ประกอบธุรกิจ หรือผลิตสินค้าเพื่อขายต่อไป

ผู้บริหารชุมชนสามารถใช้ข้อมูลจากสำมะโนประชากรและเคหะ ประกอบกับข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนในการวางแผนพัฒนาชุมชนของตน

สำมะโนประชากรของประเทศไทยที่ได้ทำมาแล้ว 10 ครั้ง ในช่วงเวลา 100 ปี ที่ผ่านมานี้ได้เป็นแหล่งข้อมูลหลักเกี่ยวกับขนาด การกระจายตัวตามพื้นที่ภูมิศาสตร์ ที่อยู่อาศัย รวมทั้งลักษณะทางสังคม เศรษฐกิจ และประชากรของผู้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย คุณค่าของ สำมะโนประชากรและเคหะอยู่ตรงที่เป็นการแจงนับผู้คนที่ครอบคลุมทั้งประเทศ และข้อมูลจาก สำมะโนประชากรครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งสำมะโนประชากรครั้งที่ 11 ที่จะทำในปี พ.ศ.2553 นี้ สามารถที่จะนำมาเปรียบเทียบกัน เพื่อดูแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงประชากรและสังคมได้

คุณค่าของสำมะโนประชากรที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลประชากรจากสำมะโนประชากร พ.ศ.2553 นี้ เป็นฐานในการคาดประมาณประชากรของประเทศไทยในอนาคต ถ้าไม่มีข้อมูลแสดงภาพประชากรที่ถูกต้องเชื่อถือได้ในปัจจุบันเป็นฐาน ก็ยากที่จะคาดประมาณภาพประชากรของประเทศไทยในอนาคตให้ถูกต้องได้

สำมะโนประชากรจะให้ข้อมูลที่มีคุณค่ามหาศาล และประโยชน์ที่จะได้รับจากข้อมูลเหล่านี้ก็จะตกอยู่กับประชาชนคนไทยนั่นเอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...